จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในธุรกิจครอบครัวได้อย่างไร

14 ก.ย. 2562 | 13:30 น.

คอลัมน์บิสิเนส แบ็กสเตจ โดย : ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล

หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3505 ระหว่างวันที่ 15 - 18  กันยายน 2562

 

สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดในการทำธุรกิจคือการที่คนในครอบครัวต้องต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ที่คิดว่าควรเป็นของตน ซึ่งไม่เพียงสามารถทำลายธุรกิจให้พังทลายได้เท่านั้น แต่ยังอาจทำลายครอบครัวให้แตกสลายได้เช่นกัน หลายคนอาจบอกว่าเป็นเรื่องของลิขิตฟ้าหรือโชคชะตา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดในเมื่อนั่นคือธุรกิจของครอบครัวและคนที่คุณรัก การรักษาทั้งสองอย่างไว้จึงเป็นทางเลือกที่ทุกคนควรทำ อย่างไรก็ตามสมาชิกในครอบครัวสามารถสร้างโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ เพียงแต่มีการวางแผนที่ดีโดยผู้เชี่ยวชาญธุรกิจครอบครัว และข้อแนะนำเบื้องต้นคือ

ไม่ใช่ลูกทุกคนที่ต้องการธุรกิจ ปัจจุบันหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดในธุรกิจครอบครัวคือการเปลี่ยนรุ่น(generational shift) ด้วยความจริงที่ว่าเราจะมีอายุยาวกว่าสมัยก่อน ในแง่ประสิทธิภาพคือกว่าจะถึงเวลาถ่ายโอนกิจการให้กับรุ่นต่อไปลูกก็มีอายุมากแล้ว และกว่าพ่อแม่จะก้าวลงจากตำแหน่งลูกอาจมีอาชีพหรือครอบครัวไปแล้ว นอกจากนี้ลูกอาจ มีความสนใจด้านอื่นที่แตกต่างจากพ่อแม่ ดังนั้นควรมีการพูดคุย กับคนรุ่นต่อไปและไม่คิดเอาเองว่าพวกเขาจะมีความสนใจในธุรกิจหรือต้องการที่จะรับช่วงต่อ เพราะในความเป็นจริงแล้วลูกๆ อาจไม่มีความสนใจในธุรกิจเลยก็ได้

โลกมีความแตกต่าง เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากอาจต้องตกใจที่รู้ว่าลูกหรือหลานมีความสนใจในธุรกิจเป็นศูนย์ ค่านิยมในอดีตอาจเปลี่ยนไปแล้ว หลายคนบริหารธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างมีความสุขและมีรายได้ให้รุ่นต่อไปมากขึ้น แต่รายได้และความมั่นคงไม่ใช่สิ่งเดียวที่เจ้าของธุรกิจทุกวันนี้ต้องการอีกแล้ว บางคนต้องการผสานชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานเข้าด้วยกัน โดยต้องการทำงานที่สนใจและช่วยเหลือสังคมไปด้วย ดังนั้นเจ้าของธุรกิจในปัจจุบันที่กำลังจัดทำแผนการสืบทอดกิจการจำเป็นต้องตั้งคำถามและพิจารณาว่าลูกๆ ของ ตนต้องการธุรกิจจริงๆ หรือไม่

จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในธุรกิจครอบครัวได้อย่างไร

การแบ่งฝ่ายทำให้เกิดปัญหา บ่อยครั้งที่เมื่อพ่อแม่วางมือจากกิจการแล้ว ลูกๆ จะใช้วิธีโหวตตามกลุ่มเสียง และอาจเป็นไปได้ที่ลูกกลุ่มหนึ่งต้องการไปในทิศทางหนึ่ง ขณะที่อีกกลุ่มต้องการไปในทิศทางอื่น ซึ่งการต่อสู้เช่นนี้สามารถสร้างความโกรธเคืองและแตกแยกได้ เช่น กำหนดการประชุมในเวลาที่ไม่ปกติหรือไม่สะดวก โดยหวังว่าพี่น้องคนอื่นจะไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ บางครั้งลูกๆ จะมีการแบ่งแยกและพี่น้องคนใดคนหนึ่งจะกลายเป็นคะแนนเสียงที่เรียกกันว่า swing vote คือคนที่อาจจะลงคะแนนเสียงให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ โดยที่ไม่สามารถจะคาดการณ์ล่วงหน้าได้ในการตัดสินใจทั้งหมด ซึ่งบุคคลนี้ไม่เพียงมีอำนาจมากเท่านั้นแต่ยังต้องมีความรับผิดชอบสูงอีกด้วย และบรรดาพี่น้องก็มักจะมองหาคนที่มีอิทธิพลและปกครองตนได้ ดังนั้นอาจต้องมีโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการที่ดีทำหน้าที่ควบคุมทุกอย่างให้เป็นระบบมากขึ้น

 

พี่น้องคนหนึ่งทำงานเพื่อคนอื่นๆ ในหลายครอบครัวมักพบสถานการณ์ที่พี่น้องคนหนึ่งเข้ามาทำธุรกิจในขณะที่คนอื่นๆเป็นเจ้าของโดยไม่ทำอะไรเลย ซึ่งปกติแล้วพี่น้องที่เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจมักจะได้รับการบ่มเพาะมาแล้วหรืออยู่ในสถานะที่สามารถเข้ามาทำธุรกิจได้ ขณะที่พี่น้องคนอื่นมักทำธุรกิจในอาชีพของตน กับครอบครัวหรือทำตามความสนใจด้านอื่น  ในช่วงแรกอาจดูเหมือนจะให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแต่หากมองให้ลึกซึ้งอาจจะเห็นปัญหาที่ซ่อนอยู่ เมื่อพี่น้องคนหนึ่งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อคนอื่นๆ ขณะเดียวกันก็ต้องอธิบายคนอื่นๆให้ทราบในเรื่องของเงินเดือน ผลกำไรของธุรกิจและเรื่องอื่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้อึดอัดใจและนำไปสู่ความขัดแย้งได้ 

 

ที่มา : Shawn McBride and Ann Gatty. 2019. Avoiding Family Fights in Business. Available: http://planningdoneright.com/blog/avoiding-family-fights-in-business/.

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.famz.co.th