สคร. เผย 10 เดือน รัฐวิสาหกิจเบิกจ่าย 146,707 ล้านบาท คิดเป็น 81% ของแผน พร้อมเร่งรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุน หวังอัดฉีดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงท้ายปี กำชับกระทรวงเจ้าสังกัด รฟท.-AOT-กทพ. หลังเบิกจ่ายล่าช้า โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.ได้เร่งติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ต้องการให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนในลักษณะ Front-Loaded เพื่อช่วยให้มีเม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว ส่งผลให้การเบิกจ่ายในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561-กรกฎาคม 2562) ของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ได้รวม 146,707 ล้านบาท หรือคิดเป็น 81% ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่เบิกจ่ายสะสมได้ค่อนข้างดี ประเภทรัฐวิสาหกิจประเภทปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ดี คือ การประปาส่วนภูมิภาค เบิกจ่ายได้ 136% การประปานครหลวงเบิกจ่ายได้ 118% และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยที่เบิกจ่ายได้ 116% ด้านรัฐวิสาหกิจประเภทปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ดี คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT เบิกจ่ายได้ 129% การไฟฟ้านครหลวงเบิกจ่ายได้ 124% และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เบิกจ่ายได้ 105%
ขณะที่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายเป็นไปตามแผน คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมมีนบุรี ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ แผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ของการไฟฟ้านครหลวง โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคตะวันตกและภาคใต้ เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย งานก่อสร้างปรับปรุงขยายของการประปาส่วนภูมิภาค โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าระยะที่ 9 ส่วนที่ 3 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และแผนงานบำรุงรักษาและพัฒนาคุณภาพโครงข่ายเพื่อความมั่นคงของ TOT
ส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผน คือ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 ดาวคะนอง วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่ง สคร.ได้ประสานความร่วมมือไปยังกระทรวงเจ้าสังกัดที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจดังกล่าว เพื่อกำชับและติดตามการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย