บริษัทฮ่องกง เอ็กซ์เชนจส์ แอนด์ เคลียริ่ง ลิมิเต็ด เจ้าของตลาดหุ้นฮ่องกง หรือ HKEX (Hong Kong Exchanges and Clearing Limited) ยื่นข้อเสนอเข้าซื้อกิจการบริษัทตลาดหุ้นลอนดอน หรือ LSE (London Stock Exchange Group Plc) เพื่อควบรวมสองบริษัทเข้าด้วยกัน มูลค่ามากถึง 3.2 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 3.66 หมื่นล้านเหรียญฯ คิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทประมาณ 1.209 ล้านล้านบาท
ส่วนแหล่งที่มาของเงิน HKEX กล่าวว่าจะมาจากทั้งเงินสดที่มีอยู่ในมือและเงินกู้ยืมใหม่ อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของ HKNX ยังได้เตือนให้ตลาดพิจารณาถึงแถลงการณ์ว่ามีความตั้งใจที่ต้องการให้ข้อเสนอมีความเป็นไปได้มากที่สุด ไม่ใช่เป็นการปั่นราคา และยังกล่าวถึงการประกาศความคืบหน้าในครั้งต่อไปว่า “จะทำในเวลาที่เหมาะสม “
ในคำแถลง HKEX เสนอราคาที่ 20.45ปอนด์ต่อหุ้น และหุ้นใหม่ที่ 2.495 ปอนด์ หลังจากนั้นในเวลา 10.00 น. ตามเวลาของลอนดอน ปรากฎว่าหุ้นของ LSE ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.5% ก่อนที่จะร่วงลงมาหลังจากที่นักลงทุนขายทำกำไร
ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของ HKEX กล่าวว่าการควบรวมของสองตลาดนี้จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อตลาดทุนฝั่งตะวันตกและตะวันออก เกิดการซื้อขายที่ต่อเนื่อง 18 ชั่วโมง และยกระดับให้เงินสกุลหยวนเป็นสกุลเงินที่ใช้ซื้อขายในระดับโลกมากยิ่งขึ้น
ชาร์ล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HKEX ให้สัมภาษณ์สื่อโดยพยายามที่จะลดการต่อต้านที่อาจจะเกิดขึ้นจากผู้ที่ไม่เห็นด้วย โดยบอกว่า “เราไม่ใช่บริษัทสัญชาติจีน เราไม่ใช่บริษัทฮ่องกง แต่เราคือบริษัทในระดับนานาชาติ”
HKEX ยังมีเงื่อนไขที่ต้องการให้ LSE ถอนแผนที่จะเข้าซื้อกิจการ รีฟินิทีฟ (Refinitiv) บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงินสัญชาติสหรัฐฯ โดยผู้ถือหุ้นใหญ่คือกลุ่มทุนแบล็กสโตน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้เข้าทำการซื้อรอยเตอร์สผู้ให้บริการข่าวสารระดับโลก ก่อนหน้านี้ LSE เสนอเข้าเทคโอเวอร์ รีฟินิทีฟ ในราคา 2.7 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อเป็นการให้บริการแบบครบวงจรกับธนาคารและโบรเกอร์ ซึ่งต้องการทั้งระบบ เครื่องมือ และข่าวสารข้อมูลที่ส่งถึงมือตลอดเวลา
ขณะที่นักวิเคราะห์จากธนาคาร UBS ในสวิตเซอร์แลนด์มองว่า ข้อเสนอที่พ่วงมาด้วยนี้อาจทำให้ LSE ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ และการประกาศเข้าซื้อ รีฟินิทีฟ เมื่อช่วงต้นเดือนส.ค"ที่ผ่านมาเพิ่งจะเป็นการประกาศเปลี่ยนโฉม LSE หลังจากที่ได้ซีอีโอคนใหม่และอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 12 เดือน “คงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากถ้าคณะกรรมการบริหาร LSE รับข้อเสนอของ HKEX” ขณะเดียวกันยังมีปัญหาภายในฮ่องกงที่อาจจะทำให้ดีลนี้ไม่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม HKEX ในปัจจุบันเป็นเจ้าของตลาดซื้อขายโลหะในลอนดอน หรือ LMS (London Metal Exchange) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายอนุพันธ์และสัญญาล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดในโดย HKEX ทำการเข้าซื้อไปเมื่อปี 2012 ในราคา 1.4หมื่นล้านปอนด์