สสส.-สคอ. ระดมภาครัฐ-เอกชน  หนุนลดความเร็ว ลดความเสี่ยง สงกรานต์ปลอดภัย 59 

28 มี.ค. 2559 | 10:40 น.
DSC_1200 ศ.นพ.อุดมศิลป์  ศรีแสงนามประธานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ  ที่ปรึกษาสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยในงานแถลงข่าวข่าว"ลดความเร็ว ลดความเสี่ยง สงกรานต์ปลอดภัย 2559 "ว่า สสส.และสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ร่วมกับเครือข่ายรัฐและเอกชน ได้แก่  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และบริษัท เอ็มเทอร์ตี้ไนน์ จำกัด จัดแคมเปญรณรงค์"ลดความเร็ว ลดความเสี่ยง สงกรานต์ปลอดภัย 2559 "  เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกผู้ใช้รถใช้ถนน ให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่  ลดการใช้ความเร็ว  งดเว้นการดื่ม ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน

สถิติสงกรานต์ย้อนหลังไป 5 ปีเกิดอุบัติเหตุ 15,537 ครั้ง   บาดเจ็บ 16,620 ราย  เสียชีวิต 1,598 ราย  กว่าร้อยละ 76 ของอุบัติเหตุบนทางหลวงเกิดจากขับด้วยความเร็วสูง และ 2 ใน 3 เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2559 นี้ต้องช่วยกันลดใช้ความเร็ว  เว้นการดื่ม  เพราะเมื่อดื่มเท่ากับเพิ่มความเสี่ยง เช่น  เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาท เหตุรุนแรง ทำร้ายร่างกาย โป้อนาจารและขาดสติ  ขับรถก็จะขับด้วยความเร็ว  คึกคะนอง นำมาซึ่งการบาดเจ็บ พิการและเสียชีวิต ทั้งนี้สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนเทศกาลสงกรานต์ 2558 จากข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.) เกิดอุบัติเหตุ 3,337 ครั้ง บาดเจ็บ 3,559  ราย เสียชีวิต 364  ราย   เมาสุราร้อยละ 39.30 ใช้ความเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 24.34  สูงเป็นอันดับสอง

นอกจากการประสานความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนแล้ว ทาง สสส.และ สคอ. ยังมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์กับเครือข่ายสื่อมวลชนส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  ได้แก่  สมาคมสื่อช่อสะอาด (สถานีวิทยุชุมชน  421 แห่งทั่วประเทศ) สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย  สมาคมเคเบิ้ลทีวีแห่งประเทศไทย  ร่วมนำเสนอข้อมูลข่าวสารกระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายชุมชน หมู่บ้าน รวมทั้งกระตุ้นให้ท้องถิ่น ชุมชน มีการจัดตั้งด่านชุมชน เฝ้าระวังป้องกันโดยเฉพาะกลุ่มสี่ยงเพื่อลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด

พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย  รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวว่า การเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชน มีคำสั่งให้ตำรวจทั่วประเทศ  กวาดล้าง ตัดโอกาส ป้องกันคนร้ายก่ออาชญากรรมในช่วงเทศกาล  ซึ่ง  1-10  เม.ย.59 จะดีเดย์ทั่วประเทศเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชน  ส่วนมาตรการลดความเร็ว ลดความเสี่ยง จะระดมสรรพกำลังทั้งหมดและประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน กระจายกำลังไปยังใช้จุดตรวจต่างๆเพื่อตรวจวัดความเร็ว  ซึ่งได้มีการติดตั้งเครื่องมือตรวจจับความเร็วอัตโนมัติเพิ่มเติมแล้ว เป็นการเสริมการทำงานซึ่งได้ผลในระดับที่ดี  นอกจากนี้ยังมีการตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์  กวดขันวินัยจราจรเข้ม ซึ่งขอให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร งดการดื่มสุราเด็ดขาด และคอยตักเตือนห้ามปราบไม่ให้มีการดื่มแล้วขับรถ เพราะสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ส่งผลกระทบต่อสังคม  ครอบครัว  เศรษฐกิจ

นายพรหมมินทร์  กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า  การขับเร็วเกินกฎหมาย ได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เป็นปัญหาที่รัฐต้องรีบจัดการ  ควบคุมกำกับดูแลเรื่องความเร็วให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด  ลงทุนเทคโนโลยีซึ่งจำเป็นและต้องทำอย่างถูกต้องต่อเนื่อง รวมทั้งมีมาตรการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ ซึ่งทั่วโลกทำแล้วได้ผล  นอกจากนี้ยังขอเสนอให้ใช้ความเร็วน้อยลง หากเป็นเขตเมืองควรขับที่  60 กม./ชม. และนอกเขตเมือง 90 กม./ชม.  ซึ่งการขับด้วยความเร็วดังกล่าวหากเกิดอุบัติเหตุจะสามารถช่วยลดการบาดเจ็บ ตาย และพิการได้เกินครึ่ง และผลต่างการใช้ความเร็วในนอกเขตเมือง ขับความเร็วที่  90 กม./ชม. กับ 120 กม./ชม.ในระยะทาง 30 กม.เท่ากัน จะถึงที่หมายต่างกันเพียง 5 นาทีเท่านั้น  แต่มีโอกาสรอดชีวิตสูง 3-4 เท่าของการเกิดอุบัติเหตุ

นายอรรถ  เหมวิจิตรพันธ์  รองประธานกรรมการ ดูแลงานรัฐกิจสัมพันธ์และการพัฒนาธุรกิจใหม่  บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด  กล่าว่า  บริษัทได้เห็นความสำคัญต่อการสร้างความปลอดภัยทางถนนจึงได้ร่วมกับ สคอ. จัดทำแคมเปญ“เดินทางปลอดภัย เชลล์ให้คุณอุ่นใจตลอดเทศกาล” เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยบริการและข้อเสนอที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับรถ ตลอดจนดูแลผู้ใช้รถให้เกิดความอุ่นใจตลอดการเดินทาง ชวนให้แวะพักปั๊ม ผ่อนคลายลดเหนื่อยล้าและง่วง ทั้งนี้เชลล์จะมอบฟรีประกันอุบัติเหตุ 10 วัน เมื่อเติมน้ำมันเชลล์ชนิดใดก็ได้ครบ 500 บาทขึ้นไป สามารถเลือกระยะเวลาคุ้มครองได้เอง ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2559   นอกจากนี้ยังจัดบริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี 10 รายการ  มีบริการเครื่องดื่มฟรี ณ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ามันเครื่องน้ามันเครื่อง กว่า 350 สาขาทั่วประเทศ และบนถนนสายหลักกว่า 34 แห่ง

นางสาวจันทิมา  เลียวศิริกุล  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จำกัด  กล่าวว่า บริษัท ฯ  มีความตั้งใจในการผลิตผลงานภาพยนตร์ “11- 12- 13 รักกันจะตาย” โดยจะให้ทั้งความบันเทิง สอดแทรกแนวคิดที่ผู้ชมสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ทางบริษัทฯและ สคอ. มุ่งหวังให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสิ่งสะท้อนให้ประชนเกิดความตระหนักและมีจิตสำนึกความปลอดภัย ไม่ขับเร็ว ไม่ดื่ม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแทบทั้งสิ้น

นายสราวุธ วิเชียรสาร ผู้กำกับภาพยนตร์ ได้กล่าวถึงแนวคิดของภาพยนตร์ มีจุดเริ่มต้นมาจากเพื่อนคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุแล้วเสียชีวิต จึงทำให้ย้อนคิดถึงข่าวมีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นสาเหตุอันดับต้นๆโดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่เดินทางกลับบ้าน กลับไปหาครอบครัว  เป็นช่วงเวลาสนุก มีความสุข แต่การเกิดอุบัติเหตุ การเสียชีวิต เป็นเรื่องร้ายๆของชีวิต และถ้าในอุบัติเหตุนั้นมีผู้เกี่ยวข้องที่ไม่ใช่ญาติ หรือ คนรู้จักกันเลย ก็คิดถึงว่าคนที่ยังอยู่เค้าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป จึงอยากให้ข้อคิดเพื่อเตือนสติการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้   นำแสดงโดย เวียร์ ศุกลวัฒน์, ยิปโซ อริย์กันตา, บุ๊คโกะ-ธนัชพันธ์, ดาต้า ดรัลชรัส เจสซี่ เมฆวัฒนา, เบสท์ ณัฐสิทธิ์, ยศ ณัฎฐ์ศรุต และเอ็ม เกียรติศักดิ์ กำหนดเข้าฉายวันที่  31 มีนาคม 2559 นี้