TPIPP ตั้งเป้ารายได้หมื่นล้านอนาคตรุกขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าขยะ

11 ก.ย. 2562 | 07:53 น.

ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์  หรือ TPIPP ตั้งเป้ารายได้ปี 62 หมื่นล้านบาท  เพิ่มประสิทธิภาพพร้อมวางแผนธุรกิจอนาคตหนุนการเติบโต ขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าขยะ  เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 12 ก.ย.นี้ หลังบอร์ดมีมติจ่ายเงินปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน TPIPP เผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในปี 2562 นี้จำนวน 10,000 ล้านบาท จากปี 2561 ที่มีรายได้ 7,915 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ได้บันทึกรายได้ 5,211 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าผลักดันอัตราการใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะรวม 180 เมกะวัตต์ ให้มีประสิทธิภาพสูงในระดับ 95% นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) 5 ตัว เพื่อใช้ทดแทน Boiler ตัวอื่นในกรณีที่จำเป็นต้องหยุดซ่อมบำรุง โดยปัจจุบันได้ติดตั้ง Boiler แล้ว 2 ตัว และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งอีก 3 ตัว คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในช่วงกลางปี 2563 เพื่อสร้างรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ   อีกทั้ง พร้อมเข้าซื้อซองประมูลโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะ เพื่อศึกษารายละเอียดและข้อกำหนด (TOR) โดยมีความสนใจเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ชลบุรี นครราชสีมา และสงขลา

 “ช่วงที่ผ่านมาภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะมากขึ้น  โดยร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือ PDP ฉบับใหม่   สำหรับการจัดหาพลังงานไฟฟ้าในระยะยาว 15-20 ปี ได้เพิ่มการสนับสนุนโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะเป็น 900 เมกะวัตต์ จาก 500 เมกะวัตต์ เราจึงวางแผนธุรกิจในอนาคต โดยมุ่งเน้นลงทุนขยายโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะ ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมและความชำนาญ” 

  TPIPP ตั้งเป้ารายได้หมื่นล้านอนาคตรุกขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าขยะ

นายภัคพล กล่าวต่อว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจากงวดผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย 2562) ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินที่จ่ายปันผล 840 ล้านบาท มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 12 กันยายน 2562 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 กันยายนนี้

“บริษัทฯ จะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลจากกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับความต้องการใช้เงินลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในอนาคตที่มีศักยภาพ และให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีแก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการต่างๆหลายโครงการ” นายภัคพล กล่าวเสริม