หุ้นนํ้าหวานไม่กระทบ ‘ปรับภาษี’ ขึ้นรอบ 2    

11 ก.ย. 2562 | 08:18 น.

โบรกฯเผยขึ้นภาษีนํ้าหวานรอบ 2 ดีเดย์ 1 ตุลาคมนี้ไม่กระทบหุ้นเครื่องดื่ม หลังปรับตัวได้แล้ว และไตรมาส 3 เป็นโลว์ซีซัน แนะซื้อหุ้น TACC- SAPPE จากการปรับสูตรนํ้าตาลและเพิ่มสินค้าใหม่

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า การขึ้นภาษีนํ้าหวานเพิ่มในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นเครื่องดื่มอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันสินค้าเครื่องดื่มที่จำหน่ายในประเทศจะถูกจัดเก็บภาษีสรรพสามิต แบ่งเป็นตามมูลค่า คือ นํ้าอัดลมและเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ถูกจัดเก็บในอัตรา 14% ส่วนนํ้าผักผลไม้ที่ไม่ได้รับการยกเว้น เช่น ชาและกาแฟ อัตรา 10% ของราคาขายปลีกแนะนำ ไม่รวม VAT 7%

ขณะที่แบ่งตามปริมาณนํ้าตาล ขึ้นอยู่กับปริมาณนํ้าตาล ซึ่งในปัจจุบันตามที่ได้ประกาศในกฎกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต วันที่ 15 กันยายน 2560 จัดเก็บตั้งแต่ 0.10-1.00 บาทต่อลิตร และจะปรับเพิ่มทุก 2 ปี โดยในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะครบกำหนดที่จะถูกจัดเก็บภาษีเพิ่ม โดยประเมินการขึ้นภาษีนํ้าตาลครั้งนี้ ไม่มีผลต่อ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI), บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ICHI), บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CBG) และบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) (SAPPE) อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ช่วงไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซันของกลุ่มเครื่องดื่มด้วย

 

หุ้นนํ้าหวานไม่กระทบ  ‘ปรับภาษี’ ขึ้นรอบ 2    

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัสฯ ระบุว่า การเก็บภาษีความหวานครั้งนี้ ไม่กระทบต่อ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) (OSP), บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC), บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI), บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ICHI), บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CBG) และบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) (SAPPE) ซึ่งปรับตัวเรียบร้อยแล้ว ยกเว้น บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) (TIPCO) และ บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (MALEE) เพราะนํ้าผลไม้ 100% ปรับสูตรไม่ได้ ทั้งนี้ กลุ่มเครื่องดื่ม แนะนำซื้อ TACC ที่ราคาเป้าหมาย 6 บาท ส่วน OSP ราคาเป้าหมาย 37 บาท และ SAPPE ราคาเป้าหมาย 25 บาท โดยแนะนำให้รอซื้อช่วงที่อ่อนตัว เนื่องจาก Upside มีจำกัด

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า หุ้นแนะนำซื้อในกลุ่มเครื่องดื่ม คือ TACC หลังจากรายได้ไตรมาส 2 ปี 2562 อยู่ที่ 402 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนสาขาของเซเว่น อีเลฟเว่นและ All cafe ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงฤดูร้อนที่ค่อนข้างนานกว่าปกติช่วยกระตุ้นการบริโภคเครื่องดื่ม นอกจากนี้ มีรายได้จากเครื่องดื่มตามฤดูกาล คือ เมลอนลาเต้ ที่สร้างรายได้ช่วงปลายไตรมาส ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 31.1% เพิ่มขึ้นจาก 29.4% ในไตรมาส 2 ปี 2561 จากการปรับสูตรนํ้าตาลน้อยทำให้ภาษีนํ้าตาลลดลง และรายได้จากธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูน ซึ่งมีกำไรเพิ่มขึ้น ประมาณการกำไรปกติทั้งปีของ TACC อยู่ที่ 140 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าจะพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากมีรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์มาช่วยหนุนอีกแรง จากไตรมาส 3 ปกติกำไรจะลดลง เพราะเป็นฤดูฝน

แต่ปีนี้คาดว่าไตรมาส 3 อาจทรงตัว จากปริมาณฝนตกน้อยกว่าทุกปี และเมนูใหม่ใน All cafe เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ได้ปรับคำแนะนำเป็นซื้อในหุ้น SAPPE โดยคาดกำไรสุทธิจะเติบโตไม่น้อยกว่า 50% ในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากรายได้ในประเทศเติบโตจากสินค้าใหม่ รายได้ในต่างประเทศกลับมาเติบโต หลังหดตัว 13% เพราะฟิลิปปินส์จัดเก็บภาษีนํ้าตาลเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับไทย อินโดนีเซียการบริหารสินค้าคงคลังไม่ดี และประเทศตะวันออกกลางค่าเงินอ่อนค่าหนัก แต่ช่วงครึ่งปีหลังปัญหาทุเลาลงแล้ว ทั้งนี้ ยังคงประมาณการรายได้ปี 2563 ที่ 3,707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% YoY

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,504 วันที่ 12-14 กันยายน 2562

หุ้นนํ้าหวานไม่กระทบ  ‘ปรับภาษี’ ขึ้นรอบ 2