คลังของบ 6 หมื่นล้าน ลงทะเบียนคนจนใหม่

11 ก.ย. 2562 | 23:35 น.

      

สศค.ประเมินใช้งบประมาณปี 63 วงเงิน 60,000 ล้านบาท ทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เปลี่ยนสำรวจรายได้เป็นครัวเรือนแทนรายบุคคล เพื่อช่วยคนจนตรงจุดมากขึ้น พร้อมหนุนคนฝึกอาชีพ ด้วยการให้เงินอีกวันละ 
300 บาท หวังคนจนหายไปแสนคน

หลังจากรัฐบาลเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ด้วยการลงทะเบียนในปี 2560 และลงทะเบียนเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน รวม 14.5 ล้านคน มีการใช้จ่ายเงินรวมตั้งแต่เริ่มโครงการวันที่ 1 ตุลาคม 2560-31 สิงหาคม 2562 ทั้งสิ้น 122,716.22 ล้านบาท ทั้งเป็นการช่วยเหลือบรรเทาค่าครองชีพ ด้วยค่าใช้จ่ายซื้ออุปโภคบริโภครายเดือน 200/300 บาท การช่วยเหลือค่าเดินทางทั้งรถเมล์ บขส. รถไฟและรถไฟฟ้า รวมถึงมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมช่วงปลายปีและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน

 

คลังของบ 6 หมื่นล้าน  ลงทะเบียนคนจนใหม่

ลวรณ แสงสนิท

 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เสนอกรอบงบประมาณปี 2563 วงเงิน 60,000 ล้านบาท สำหรับใช้ทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเปิดลงทะเบียนรอบใหม่แทนโครงการปัจจุบันที่คาดว่าจะสิ้นสุดในปลายปีนี้  โดยวงเงินดังกล่าว จะถูกเติมเข้ากองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ก่อนทยอยเบิกใช้ตามรายละเอียดโครงการที่ได้อนุมัติอีกทอดหนึ่ง ทั้งที่เป็นค่าสวัสดิการและนำไปพัฒนาฝึกอาชีพผู้มีรายได้น้อย

ทั้งนี้ สศค.อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดการเปิดลงทะเบียน ซึ่งต้องขึ้นกับนโยบายของกระทรวงการคลังว่า จะเปิดในช่วงใดจึงเหมาะสม แต่เบื้องต้นจะปรับเปลี่ยนเงื่อนไขคัดเลือกผู้ได้สิทธิ เช่น จากเดิมคิดรายได้และทรัพย์สินเป็นรายบุคคลไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี เปลี่ยนเป็นรายครัวเรือนแทน เพื่อคัดกรองผู้ที่ไม่จนจริงไม่สามารถมารับบัตรได้ ซึ่่งวิธีนี้คาดว่า จะละเอียดรอบคอบมากขึ้นและช่วยให้รัฐสามารถนำงบประมาณไปช่วยเหลือได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น

คลังของบ 6 หมื่นล้าน  ลงทะเบียนคนจนใหม่

 

ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะปรับปรุงสวัสดิการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยใหม่ให้ตรงตามความต้องการของผู้ได้รับสิทธิที่ตรงจุดขึ้น เช่น ให้ความช่วยเหลือตามกลุ่มอาชีพ กลุ่มอายุ หรือตามพื้นที่อยู่อาศัย และเน้นการให้ผู้มีรายได้น้อย หลุดพ้นจากความยากจน ด้วยการให้เข้าร่วมการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้เพิ่ม ซึ่งจะเข้มข้นกว่ารอบที่ผ่านมา ที่ผู้มีรายได้น้อยไม่สนใจเข้าร่วมโครงการพัฒนาอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เนื่องจากติดปัญหาเวลาเข้าฝึกอบรมทำให้ขาดรายได้หลัก จึงจะปรับเปลี่ยน โดยให้สวัสดิการจูงใจให้เข้ามาฝึกอาชีพด้วยการให้เงินวันละ 300 บาทด้วย

แผนการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่สศค.ได้รับมา จะมีการดำเนินการ 3 ขั้น ขั้นแรกคือ จัดทำมาตรการพิเศษช่วยเหลือระยะสั้น ซึ่งได้ทำไปแล้วผ่านการใช้งบ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเติมเงิน 500 บาท 2 เดือน การช่วยเหลือผู้สูงอายุ และค่าเลี้ยงดูบุตร ส่วนขั้นที่ 2 กำลังดำเนินการคือ ลงสำรวจเก็บตกข้อมูลคนยากจนที่ยังไม่ได้รับบัตรสวัสดิการฯ ให้ได้รับการช่วยเหลือด้วย ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า จะมีเพิ่มไม่เกิน 1 แสนคน ส่วนระยะสุดท้าย คือปรับรูปแบบการคัดกรองผู้ถือบัตรใหม่นายลวรณกล่าว

นอกจากนั้น กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างประเมินผลการทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นพบว่า มีผู้ได้รับการพัฒนาและมีรายได้สูงขึ้น โดยตั้งเป้าให้มีผู้หลุดพ้นความยากจนและไม่ต้องใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 1 แสนราย จากนั้นจะนำข้อมูลมารวบรวมและใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยประเมินผล เพื่อแก้ไขจุดอ่อนและเพิ่มจุดแข็ง ตามนโยบายของนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดว่าจะได้ ข้อสรุปรายละเอียดการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่และเสนอให้ รมว.การคลังพิจารณาได้ภายในสิ้นปีนี้

 

รายงานจากกรมบัญชีกลางระบุว่ายอดการใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ 14.5 ล้านราย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560-31 สิงหาคม 2562 รวมทั้งสิ้น 122,716.22 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค 78,000 ล้านบาท ร้านก๊าซหุงต้ม 289 ล้านบาทรถไฟฟ้า 69.84 ล้านบาท บขส. 315.6 ล้านบาท รถไฟ 535.7 ล้านบาทและรถขสมก. 91.2 ล้านบาท มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต 7,219 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมคือ สนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปี 5,600 ล้านบาท ช่วยเหลือค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ 9 ล้านบาท ช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาล 2,700 ล้านบาท และ่ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า/ค่าประปา 610 ล้านบาท การชดเชยเงินโดยใช้ข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) 35 ล้านบาท และ 1% เพื่อการออม 6.6 ล้านบาท และล่าสุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ทั้งสนับสนุนเงินให้ผู้ถือบัตรเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุและเงินช่วยเหลือค่าเลี้ยงบุตรรวม 9,291 ล้านบาท

 

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,504 วันที่ 12-14 กันยายน 2562

คลังของบ 6 หมื่นล้าน  ลงทะเบียนคนจนใหม่