เดอะ ซีนิเซ่นส์ ปั้น THE Senior Citizen Complexs รับสังคมสูงวัย
เฌ้อสเซอรี่ โฮมปักหมุด “เดอะ ซีนิเซ่นส์” รับสังคมสูงวัย ผุด THE Senior Citizen Complexs ครบวงจรทั้งด้านการฟื้นฟู ดูแลและบริการ เร่งเดินหน้าลงทุน 3 โครงการทั้งจรัญสนิทวงศ์ ปทุมธานี และสุขุมวิท 49 พร้อมตั้งโรงเรียนผลิตพยาบาล แก้วิกฤติขาดแคลนบุคลากร
นายอำนาจ ประสิทธิ์ดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เค.พี.เอ็น.ซีเนียร์ลิฟวิ่ง จำกัด ผู้บริหารโครงการ เดอะ ซีนิเซ่นส์ (The Senizens) และโรงพยาบาล “เฌ้อสเซอรี่ โฮม” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดให้บริการโรงพยาบาลเฉพาะทางเพื่อผู้สูงวัย พบว่ามีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก ทั้งจากผู้ที่เข้ามาติดต่อเองทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่สนใจและส่งต่อผู้สูงวัยมาใช้บริการ ด้วยจุดเด่นเรื่องของราคา ที่ตํ่ากว่าโรงพยาบาลเอกชน รวมถึงการให้บริการที่ครบครันทำให้ในช่วงที่ผ่านมาได้รับความนิยมและมีการเติบโตต่อเนื่อง ทำให้บริษัทต่อยอดธุรกิจด้วยการดำเนินโครงการ “เดอะ ซีนิเซ่นส์” ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัยขึ้น
โดยแผนการลงทุนในช่วง 5 ปีนับจากนี้จะเดินหน้าลงทุนและสร้างแบรนด์ “เดอะ ซีนิเซ่นส์” รวม 3 โครงการ ประกอบไปด้วย เดอะ ซีนิเซ่นส์ ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ 13 บนพื้นที่ 8 ไร่ จำนวน 8 อาคารใช้งบลงทุนกว่า 800 ล้านบาท สามารถรองรับผู้สูงวัยได้ 400 เตียง เป็นโครงการที่เชื่อมต่อกับโรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วยสูงอายุเฌ้อสเซอรี่ โฮม โดยอาคารแรกเปิดให้บริการเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และจะเปิดอาคารที่ 2 ในเดือนเมษายน 2563 และครบทั้งหมดภายในปี 2564
โครงการ เดอะ ซีนิเซ่นส์ ราชพฤกษ์-ปทุมธานี บนพื้นที่ 80 ไร่ จำนวน 40 อาคาร พร้อมโรงพยาบาล 1 แห่ง ระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัย ใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน) รองรับผู้สูงวัยได้ 2,000 คน เริ่มลงทุนในปี 2564 พร้อมเปิดให้บริการในปี 2565 และโครงการเดอะ ซีนิเซ่นส์ สุขุมวิท 49 ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัยระดับไฮเอนด์ เน้นรองรับผู้สูงวัยระดับบน และชาวต่างชาติ จะเปิดให้บริการได้ในปี 2566
“เป้าหมายของบริษัทคือการสร้าง THE Senior Citizen Complexs หรือเมืองแห่งผู้สูงวัย ซึ่งประกอบไปด้วย อาคารสถานบริบาล โรงพยาบาลดูแลฟื้นฟูแบบครบวงจร ทั้งในระยะ Intermediate Care LongTerm Care และ Palliative Care เป็นระดับ Hospice หรือที่พักพิงหลังสุดท้ายของชีวิต”
อย่างไรก็ดีในอนาคตบริษัทมีแผนขยายการลงทุนในรูปแบบของแฟรนไชส์ โดยเน้นการเปิดให้บริการในหัวเมืองใหญ่ อาทิ หัวหิน เชียงใหม่ ฯลฯ โดยผู้สนใจสามารถเข้าลงทุนและเปิดให้บริการ เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้สูงวัยที่ใช้บริการของเดอะ ซีนิเซ่นส์ในกรุงเทพฯ สามารถย้ายไปใช้บริการในสาขาต่างจังหวัด เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้ โดยแฟรนไชส์ที่เปิดให้บริการจะมีรูปแบบการฟื้นฟู ดูแลและให้บริการที่ครบวงจรเช่นกัน
“วันนี้มีหลายเมืองที่มีศักยภาพ และผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง เช่น พัทยา ที่วันนี้มีคนจีนเข้ามาอยู่จำนวนมาก หรือหัวหิน ที่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่น ดังนั้นจึงมองเห็นถึงโอกาสในการขยายการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์เพื่อให้มีการครอสการใช้บริการได้ อย่างไรก็ดีการขยายในรูปแบบแฟรนไชส์จะต้องมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และมีมาตรฐานซึ่งวันนี้ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาและจัดวางระบบ ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในช่วง 4-5 ปีนี้”
นอกจากนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร ทั้งแพทย์และพยาบาล บริษัทยังมีแผนจัดตั้งโรงเรียนผลิตพยาบาล เพื่อมารองรับการขยายธุรกิจที่จะมีขึ้นในอนาคต เนื่องจากการให้บริการผู้สูงวัยจะต้องใช้นางพยาบาลและผู้ช่วยที่ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการให้บริการทำกายภาพ บำบัด และกิจกรรมบำบัด ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่า ประเทศไทยยังขาดแคลนแพทย์และนางพยาบาลอีกมาก
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า การที่ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์แบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งวันนี้หลายคนเริ่มตระหนักถึงช่วงเวลาในบั้นปลาย ทำให้วันนี้มีผู้ประกอบการสนใจเข้ามาลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับ ส่งผลให้เกิดโมเดลการรับบริการและดูแลผู้สูงวัยมากมาย แต่สถานบริการที่มีความเชี่ยวชาญหรือชำนาญเฉพาะทางแบบครบวงจรอาจจะยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่ยังเป็นเนิร์ซซิ่งโฮม ที่ให้บริการรับดูแลอย่างเดียว
โดยปัจจุบันสถานให้บริการดูแลผู้สูงวัยแบ่งออกเป็น 3 ระดับได้แก่ ระดับบน อาทิ โรงพยาบาลเอกชน สถานดูแล ฯลฯ ที่มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 1 แสนบาทต่อเดือนขึ้นไป ระดับกลาง อาทิ โรงพยาบาล เอกชน เนิร์ซซิ่ง โฮม ฯลฯ มีระดับราคาตั้งแต่ 3 หมื่นบาทขึ้นไป และระดับล่าง อาทิ เนิร์ซซิ่ง โฮม, บ้านพักคนชรา มีระดับราคาตั้งแต่ 4,000 บาทขึ้นไป โดยที่ผ่านมากลุ่มระดับกลางมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ในอนาคตเชื่อว่าระดับบนจะเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันรุนแรง เนื่องจากผู้สูงวัยเริ่มเตรียมความพร้อมในการเข้ามาใช้บริการเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่บุตรหลาน
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3504 ระหว่างวันที่ 12 - 14 กันยายน 2562