“สุริยะ” สั่งยกระดับโรงงานสู่อุตฯสีเขียวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

06 ก.ย. 2562 | 06:35 น.

อธิบดี กรอ. เผย รมว.อุตสาหกรรมมีนโยบายส่งเสริมให้โรงงานในไทยยกระดับเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวมากขึ้น  ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี  ตั้งเป้าตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนโรงงานปีละ 2,000 ราย

“สุริยะ” สั่งยกระดับโรงงานสู่อุตฯสีเขียวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
                นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยยกระดับให้เป็นอุตสาหกรรมสีเขียวมากขึ้น โดยมีเป้าหมายในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามแผนงานพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนไว้ 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ระยะที่ 2 ห่วงโซ่อุปทานสีเขียว (Green Supply Chain) ระยะที่ 3 เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industry Town) และระยะที่ 4 สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) เพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนโดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ เช่น การปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตการลดการใช้ทรัพยากร, การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การเพิ่มปริมาณการใช้พลังงานทดแทนในภาคอุตสาหกรรมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหาและตรวจสอบสภาพแวดล้อม เป็นต้น

                ทั้งนี้  โรงงานอุตสาหกรรมที่พัฒนาจนสามารถยกระดับเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว แสดงให้เห็นว่ามีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โรงงานได้ยึดมั่นในการประกอบกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กรตลอดห่วงโซ่อุปทานเพื่อเข้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันโรงงานที่ได้รับรองอุตสาหกรรมสีเขียวจะได้สิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ในปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พิจารณาเพิ่มเติมเงื่อนไขการขอรับสิทธิพิเศษให้แก่โรงงานที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวตั้งแต่ระดับที่ 3 ขึ้นไป ภายในระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันเปิดดำเนินการ เป็นต้น            

                ที่ผ่านมา กรอ. ได้ตรวจประเมินสถานประกอบการที่ขอเลื่อนระดับสู่อุตสาหกรรมสีเขียวอย่างเข้มงวด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ถึงระดับที่ 5 พร้อมทั้งได้มอบหมายให้สถาบันรับรองมาตรฐาน ISO (International Organization for Standardization) เป็นที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งได้รับความสนใจจากสถานประกอบการทั่วประเทศที่จะขอรับการตรวจประเมินเพื่อการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว
 

สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว เช่น อุตสาหกรรมสีเขียวตั้งแต่ระดับที่ 2 ขึ้นไป สามารถนำตราสัญลักษณ์ไปแสดงบนผลิตภัณฑ์ได้ ส่วนใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 และ 5 จะได้รับโล่อุตสาหกรรมสีเขียว, สามารถขอเครื่องหมาย Thailand Trust Mark จากกระทรวงพาณิชย์ได้, ได้รับการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เทียบเท่าสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผู้บำบัดและกำจัดสิ่งปฏิกูลจะได้รับการอนุญาตนำสิ่งปฏิกูลออกนอกบริเวณโรงงานแบบอัตโนมัติ เป็นต้น

กรอ. ตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้ผู้ประกอบการได้รับใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวเพิ่มขึ้นปีละ 2,000 ราย จากปัจจุบันมีโรงงานที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวแล้วจำนวน 37,212 ใบรับรอง แบ่งเป็นระดับที่ 1 จำนวน 20,581 ใบรับรอง, ระดับที่ 2 จำนวน 8,737 ใบรับรอง, ระดับที่ 3 จำนวน 7,329 ใบรับรอง, ระดับที่ 4 จำนวน 493 ใบรับรอง และระดับที่ 5 จำนวน 72 ใบรับรอง”

“สุริยะ” สั่งยกระดับโรงงานสู่อุตฯสีเขียวตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

                นายทองชัย กล่าวต่อไปอีกว่า ล่าสุด กรอ. ได้ดำเนินการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวและงานสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ “Green Industry Forum” ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาสถานประกอบการสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ประจำปีงบประมาณ 2562  โดยงานดังกล่าวจะมีการมอบรางวัลแก่สถานประกอบการที่ได้รับการยกระดับเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 และระดับที่ 5 ในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งมีจำนวน 139 ราย ประกอบด้วย สถานประกอบการที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) จำนวน 115 ราย สถานประกอบการที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Network) จำนวน 24 ราย

การจัดงานรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่สถานประกอบการ ที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และเพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์และทัศนคติที่ดีต่อภาคอุตสาหกรรมของไทยอีกด้วย