Tech war ที่แท้ทรูเมื่อ"หัวเว่ย"ไม่มี"กูเกิล"19 ก.ย.นี้

06 ก.ย. 2562 | 01:52 น.
  • นับถอยหลัง “หัวเว่ย” เปิดตัว สมาร์ทโฟนตระกูล “Mate30” วันที่ 19 ก.ย.62
  • ประเดิมผลจากการขึ้นบัญชีของสหรัฐฯจะไม่มีแอปพลิเคชั่นของกูเกิลในโทรศัพท์รุ่นนี้
  • ถือเป็นความท้าทายอย่างใหญ่หลวงของ”หัวเว่ย” จะผ่านศึกหนักนี้ไปด้วยวิธีการใด
    หน้าตาของ Mate30, Mate30Pro ที่ถูกเปิดเผยก่อนวันเปิดตัว

Credit: Techgarage.blog / Ben Geskin

ประเดิมสนามรบแรกเมื่อหัวเว่ยไม่มีกูเกิล

นับถอยหลังTech war เต็มรูปแบบ

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ของจีน “หัวเว่ย” เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดตระกูล “Mate30” ที่มิวนิคในเดือนตุลาคม และจะเป็นสินค้ารุ่นแรกของหัวเว่ยที่ออกสู่ตลาดหลังถูกขึ้นบัญชีดำด้านการค้าของสหรัฐฯ  โดยจะไม่มีแอปพลิเคชั่นของ Google อยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลย ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯจัดให้บริษัทหัวเว่ยอยู่ในบัญชีต้องห้ามในการซื้อขายเทคโนโลยีและซอฟแวร์ นอกจาก Google และ Facebook แล้วยังรวมไปถึง Intel  Micron และ Qualcomm อีกด้วย

หัวเว่ยยอมรับว่า “Google ecosystem” ซึ่งรวมถึงระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ทรงพลังมากที่สุดแล้ว และเป็นทางเลือกอันดับ 1 ที่จะถูกนำมาใส่ไว้ในสมาร์ทโฟน แต่บริษัทได้มีการพัฒนาอีโคซิสเตมและระบบปฎิบัติการของตัวเองซึ่งจะเปิดตัวในปลายเดือนนี้  อย่างไรก็ตามตระกูล “Mate30” อาจจะยังคงใช้ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ซึ่งใช้โอเพ่นซอส เพียงแต่จะไม่สามารถเข้าแอปพลิเคชั่นที่นิยมกันทั่วโลกได้ อย่าง youtube google map กูเกิลGmail หรือ Google play store ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะสามารถเข้าไปหาซื้อแอปพลิเคชั่นใหม่ๆได้ และถ้าหากไม่มีบริการเหล่านี้ สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยก็จะมีความน่าดึงดูดใจน้อยลงไปเยอะในตลาดนอกประเทศจีน

เบน แสตนตัน นักวิเคราะห์ตลาดบริษัทคานาลิส ในลอนดอน กล่าวว่า ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงของหัวเว่ยในตลาดสมาร์ทโฟนตระกูล “Mate30” ในยุโรป (รวมถึงทั่วโลก) ซึ่งสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมและเป็นเรือธงของหัวเว่ยจะถูกมองข้ามอย่างสิ้นเชิง  โจทย์ใหญ่คือ รูปลักษณ์หรือฮาร์ดแวร์ของหัวเว่ยจะดีพอเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในขณะที่สูญเสียแอปพลิเคชั่นของกูเกิลจากสมาร์ทโฟนของพวกเขาไปได้หรือไม่ และสงสัยว่าสาวกของหัวเว่ยจะยอมรับเรื่องนี้ได้หรือไม่ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของหัวเว่ย เหริน เจิ้งเฟย คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยทั่วโลกจะร่วงลงประมาณ 40 % หลังจากที่การขึ้นบัญชีของสหรัฐมีผลบังคับใช้  

เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ"หัวเว่ย"

 

ผลประกอบการสวยงามครึ่งปีแรกโต 23.2%

วันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา “หัวเว่ย” เปิดเผยผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก มีรายรับรวมทั้งบริษัทที่ประมาณ 401,300 ล้านหยวนหรือราว 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี ก่อนที่ 23.2% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิจากรายได้ทั้งหมดอยู่ที่ 8.7% หรือราว 32,000 ล้านหยวน

เมื่อจำแนกตามประเภทธุรกิจจะพบว่า ธุรกิจผู้ให้บริการโครงข่ายการสื่อสาร (Carrier Business) และงานด้านไอทีของหัวเว่ยมีรายรับถึง 146,500 ล้านหยวน เทียบเป็น 37% ของรายได้บริษัททั้งหมด ณ ปัจจุบัน โดยมีการเปิดเผยว่าหัวเว่ยได้รับสัญญาพัฒนาโครงข่าย 5G เชิงพาณิชย์มากกว่า 50 แห่งทั่วโลกแล้ว

ด้านธุรกิจองค์กร (Enterprise Business) ทั้งงานด้านระบบคลาวด์ข้อมูล, AI, ศูนย์ข้อมูลหรือ IoT มีรายรับรวมทั้งสิ้นที่ 31,600 ล้านหยวน แต่ที่น่าสนใจคือธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Consumer Business (นับรวมแบรนด์ลูก ‘Honor’) มีรายรับรวมทั้งสิ้นที่ 220,800 ล้านหยวน หรือราว 55% ของรายได้ทั้งหมดในปัจจุบัน โดยมียอดการจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่ประมาณ 118 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 24% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว