“อีลอน มัสก์” นำทัพ Tesla ลุยธุรกิจประกันภัย
รายงานข่าวระบุว่า บริษัทเทสล่า (Tesla) บริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้า กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเป็นบริษัทรับประกันภัย โดยจุดประสงค์หลักๆ ที่เทสล่าคิดจะเข้ามาทำธุรกิจประกันภัย ก็เพื่อที่จะทำไว้รองรับรถยนต์เทสล่าของตัวเอง และจะทำให้เจ้าของรถเทสล่าจ่ายเบี้ยประกันภัยที่น้อยลง
โดยบริษัทเทสล่าได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กำลังเริ่มที่จะมีการเสนอขายประกันภัยรถยนต์ด้วยตัวเอง ในเบื้องต้น บริษัทจะดำเนินธุรกิจนี้ในรูปแบบของ “นายหน้า” ในรัฐแคลิฟอร์เนียไปก่อน ส่วนตัวกรมธรรม์จะออกโดยบริษัทประกันภัยที่ชื่อว่า Markel ทางเทสล่าได้บอกว่า นี่คือก้าวแรกของการนำไปสู่ธุรกิจประกันภัยอย่างเต็มตัว และจะดำเนินธุรกิจนี้ทั้งหมดด้วยตัวบริษัทเองในอนาคต ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกที่ไม่มีการแยกบริษัทออกมาทำธุรกิจนี้ กลับใช้บริษัทเทสล่าเป็นผู้ดำเนินการเลย
“อีลอน มัสก์” ผู้ก่อตั้งบริษัท Tesla ระบุว่าช่วงที่ผ่านมา เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อเทสล่าต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยในอัตราที่สูงมาก ตั้งแต่ราคา 38,000 – 80,000 เหรียญ หรือราว 1,175,000 – 2,480,000 บาท ในการครอบครองรถยนต์เทสล่า เขาหวังว่าทางเทสล่าจะสามารถออกแพ็คเกจประกันภัย อย่างเร็วที่สุดภายในเดือนพฤษภาคม 2019 และน่าจะมีราคาที่ดีที่สุดในตลาดสำหรับรถยนต์เทสล่า
“การที่เทสล่าสามารถได้ข้อมูลการใช้รถเทสล่าของลูกค้า ทำให้ทางเทสล่าสามารถประเมินภาพรวมของความเสี่ยงได้ดีกว่าบริษัทรับประกันภัยที่เป็นบุคคลที่ 3 และทางเทสล่าก็ออกมายืนยันเพิ่มเติม ว่าข้อมูลที่เอามาประเมิน เป็นข้อมูลรวม ไม่ใช่ไปดึงข้อมูลของลูกค้ารายคนมาประเมิน ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัว”
ปัจจุบัน ประกันภัยที่ทางเทสล่าเสนอให้กับลูกค้ามีราคาถูกว่าเบี้ยประกันทั่วไปประมาณ 20% และถูกกว่าถึง 30% สำหรับบางกรณี ทางเทสล่าอ้างว่า สาเหตุที่เบี้ยประกันถูกลงเป็นผลมาจากความสามารถของระบบรักษาความปลอดภัยที่ทางเทสล่าพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามเป็นที่รู้กันดีในอเมริกา ว่าธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจที่มีความอ่อนไหวด้านราคาสูง ตลาดค่อนข้างจะงุนงงที่ทางเทสล่าสามารถกดราคาของเบี้ยประกันภัยลงมาได้มากขนาดนี้ ทางเทสล่ามั่นใจว่ารถยนต์เทสล่าจะเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่ารถยนต์ยี่ห้ออื่น หรือว่ามันเป็นแค่กลยุทธ์หนึ่งทางการตลาดของเทสล่าเท่านั้น
บริษัทที่ชื่อ State National ที่เป็นบริษัทลูกของ Markel มีใบอนุญาตในการขายประกันภัยในทั้ง 50 รัฐ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการออกกรมธรรม์ประกันภัยให้กับเจ้าของรถยนต์เทสล่า เป็นผู้รับผิดชอบความเสี่ยงและการกำหนดราคาค่าเคลม ขณะที่ทางเทสล่าจะยังเป็นแค่นายหน้าในรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น จริงๆ แล้ว บริษัท State National ถนัดในเรื่องการประกันภัยอสังหาริมทรัพย์มากกว่าด้านรถยนต์ ดังนั้น ถึงแม้ว่าทางบริษัทจะรับความเสี่ยงจากการเป็นหุ้นส่วนกับทางเทสล่ามาทั้งหมด แต่ก็จะส่งต่อความเสี่ยงไปที่ประกันภัยเจ้าอื่น หรือพูดง่ายๆ คือ ทำธุรกิจกับเทสล่าในเชิงของการรับประกันภัยต่อมากกว่า ไม่มีการเปิดเผยว่าบริษัทใดคือบริษัทที่รับประกันภัยต่อจากบริษัท State National
ก็ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของบริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเทสล่า ที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายของเจ้าของรถน้อยลง จากเดิมที่ขายดีอยู่แล้ว ก็น่าจะทำให้ขายดีมากขึ้น ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่ยอดขายสำหรับรถยนต์เทสล่า แต่อยู่ที่การผลิตมากกว่าที่ยังทำไมได้ตามเป้าที่ตั้งไว้สักที ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เทสล่าเจอปัญหาไปหลายเรื่องจนทำให้ราคาหุ้น TSLA ปรับตัวลดลงถึง 32% ในระยะเวลาเพียงแค่ 8 เดือน ขณะที่ S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% โรงงาน Gigafactory 3 ที่สร้างใกล้จะเสร็จแล้วตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์และเริ่มการผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2019 มีการคาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตรถยนต์เทสล่าได้ถึง 250,000 คันต่อปี เชื่อว่าหลังจากที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้สามารถรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าชาวจีนและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ได้ ผลประกอบการของเทสล่าก็น่าจะดูดีขึ้นเช่นกัน