“จุรินทร์”ควง 2 รมต.ปชป. ทะลวงคอขวดค้าชายแดนมาเลย์

01 ก.ย. 2562 | 13:39 น.

จุรินทร์ นำทีม 2 รัฐมนตรีประชาธิปัตย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาอุปสรรค และผลักดันการค้าชายแดนไทย- มาเลเซีย หวังป้องค้าสองฝ่ายกว่า  8 แสนล้านยังขยายตัวต่อเนื่อง

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย ที่จังหวัดสงขลา( 1 ก.ย.2562)ร่วมกับนายนิพนธ์  บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัด ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้

“จุรินทร์”ควง 2 รมต.ปชป. ทะลวงคอขวดค้าชายแดนมาเลย์

 

โดยนายจุรินทร์ ระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการค้าชายแดน ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ จึงจัดการประชุมเพื่อรับฟังและหารือแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างไทย-มาเลเซีย ในการผลักดันให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซียให้เพิ่มขึ้น

จากการลงพื้นที่ พบว่าปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าชายแดน คือด่านสะเดา ที่มีช่องการตรวจลงตราที่จำกัดจึงเป็นคอขวดทำให้การอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวรวมทั้งการส่งออกล่าช้า โดยจะมีการเพิ่มตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จาก 50 คน เป็น 100 คน และเพิ่มช่องทางเดินรถ จาก 4 ช่อง เป็น 6 ช่อง

ปัญหาการส่งออกอาหารไทยไปยังมาเลเซียที่ล่าช้าแม้จะมีการทดลองเปิดด่านขนส่งสินค้าเข้าออกเป็น 24 ชั่วโมง เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ไม่มีตัวแทนประจำอยู่ในช่วงระยะเวลานอกเวลาราชการ

ส่วนด่านสะเดาแห่งใหม่ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ขณะนี้คืบหน้าแล้ว 95 % คาดว่าแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ แต่ยังมีปัญหาถนนเชื่อมระหว่างไทย -มาเลเซีย อยู่ระหว่างเจรจา หากได้ข้อยุติ จะเร่งดำเนินการก่อสร้างทันที

“จุรินทร์”ควง 2 รมต.ปชป. ทะลวงคอขวดค้าชายแดนมาเลย์

 

สำหรับการเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย จะมีการประชุมหารือร่วมกับนักธุรกิจมาเลเซีย ใน 5 รัฐภาคเหนือตอนบน ร่วมกับนักธุรกิจของไทยและผู้ส่งออกไทยใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปลายปีนี้เพื่อผลักดันการค้าระหว่างกัน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือถึงปัญหาการนำน้ำมันปาล์มผ่านแดนจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซีย ผ่านไทยเพื่อส่งต่อไปยังลาวหรือเมียนมา แต่ไม่ได้ส่งออกไปจริง ส่งผลต่อราคาปาล์มในประเทศ จึงได้กำชับให้กรมศุลกากรเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น

สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทย-มาเลเซียโดยในปี 2561 มีมูลค่าสูงถึง 803,300 ล้านบาท และครึ่งปีแรกของปี 2562 มีมูลค่า 387,041 ล้านบาท  โดยการค้าชายแดนไทย-มาเลเซียมีสัดส่วนสูงถึง 70 %ของมูลค่าการค้ารวมไทย-มาเลเซีย (การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ปี 2561 มีมูลค่า 568,096 ล้านบาท และครึ่งแรกของปี 2562 มีมูลค่า 271,603 ล้านบาท) ซึ่งในพื้นที่ชายแดนใต้ที่ติดกับมาเลเซียมีด่านศุลกากร 9 ด่านกระจายตามแนวชายแดน โดยด่านศุลกากรสะเดาเป็นด่านชายแดนที่มีมูลค่าการนำเข้าส่งออกสินค้าสูงที่สุดในประเทศไทยแต่ละปีเฉลี่ยกว่า 3 แสนล้านบาท จากมูลค่าการค้าชายแดนทั้งประเทศประมาณ 1 ล้านล้านบาท