ไอทีครึ่งแรกติดลบ4% แอดไวซ์รุกขายออนไลน์

11 ก.ย. 2562 | 01:30 น.

แอดไวซ์เผยภาพรวมตลาดไอทีครึ่งปีแรกติดลบ 4% ครึ่งปีหลังยังแข่งเดือด ชี้ตลาดเกมมิ่งโตได้อีก พร้อมเร่งปรับตัวสู่ค้าปลีก ทุ่ม 70 ล้าน รีโนเวตสาขา ขยายช่องทางออนไลน์  ตั้งเป้าไตรมาส 3 ปีหน้ามุ่งสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดไอทีครึ่งแรกของปี 2562 ติดลบ 4% (GFK) หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 13,433 ล้านบาทลดลงจากปี 2561 ที่มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาทจากปัจจัยด้านการเมือง และการปรับเปลี่ยนรัฐบาล ซึ่งยังต้องดูแผนพัฒนาของรัฐบาลใหม่ ตลาดพีซีโน้ตบุ๊กยังค่อนข้างทรงตัว ขณะที่ตลาดเกมมิ่งนั้นยังเติบโตได้อีก จากการที่แบรนด์ต่างๆ เริ่มเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายตลาดจึงหันไปพัฒนาเกมเพื่อให้เกิดความต้องการ ถึงแม้ว่าในแง่ของจำนวนขายพีซีจะลดลง เพราะผู้บริโภคเริ่มไปโฟกัสที่รุ่นประสิทธิภาพ และราคาที่สูงขึ้น ซึ่งตลาดเกมมิ่งปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 12-15% ในปีนี้เพิ่มเป็น 20%

ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลังทุกแบรนด์จะมีการขยับไปโฟกัสที่เกมมิ่งมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้ภาพรวมตลาดพอไปได้ ในอดีตภาพรวมยอดจำหน่ายของพีซีโน้ตบุ๊กอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านยูนิต แต่ปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายล่าสุดรวมกันอยู่ที่ 3 ล้านยูนิต สิ้นปีนี้ก็คาดว่าจะไม่ต่างกันมาก ขณะที่ทางแอดไวซ์ก็พยายามปรับตัว จากเดิมที่เป็นไฮบริดทั้งค้าปลีกและค้าส่ง สิ้นปีนี้ตั้งเป้าที่จะปรับสัดส่วนค้าปลีกและค้าส่งให้อยู่ที่ 50% : 50%

ไอทีครึ่งแรกติดลบ4% แอดไวซ์รุกขายออนไลน์

“แนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าไม่น่าจะโตได้มากกว่านี้ อาจจะทรงตัวหรือติดลบอยู่ที่ประมาณ 4-5% พอตลาดไอทีไม่โตจะทำรายได้ยาก เราจึงไปเน้นที่การทำกำไร ถ้าตลาดไอทีดรอป ตลาดขายส่งก็จะโตยาก แอดไวซ์จึงปรับแผนมาเริ่มที่ค้าปลีก พยายามรีโนเวตและรีแบรนด์หน้าร้าน เพื่อรองรับการขยายค้าปลีกให้มากขึ้น”

ขณะที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแอดไวซ์ได้มีการรุกตลาดต่างประเทศ โดยขยายแฟรนไชส์ไปยังตลาดประเทศลาว ซึ่งปัจจุบันมีแฟรนไชส์อยู่ที่ประมาณ 25 แห่ง และมีแพลนที่จะขยายไปยังตลาดอินโดจีน อย่าง เมียนมา กัมพูชา โดยอยู่ระหว่างการศึกษาตลาด และข้อกฎหมายของแต่ละประเทศรวมถึงมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ

 

อย่างไรก็ตามการแข่งขันของตลาดไอทีในครึ่งปีหลังยังค่อนข้างรุนแรง โดยแอดไวซ์ทุ่มงบกว่า 70 ล้านบาทในการทำตลาดและรีโนเวตสาขา อีกทั้งยังได้มีการรุกตลาดออนไลน์เพื่อรองรับอี-คอมเมิร์ซ ด้วยการใช้เครื่องมือในการทำตลาดออนไลน์ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมถึงมีการจัดโปรโมชันและแฟลชดีล เพื่อกระตุ้นยอดขายบนช่องทางออนไลน์ และเน้นบริการ ดรอปพอยต์ ซ่อมอุปกรณ์ ที่สามารถตรวจสอบสถานะการซ่อมหรือสั่งซื้อสินค้าทั้งออ นไลน์และออฟไลน์ที่สามารถติดตาม (Tracking) ได้ โดยตั้งเป้าครึ่งหลังปี 2562 ยอดขายโต 13,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่มียอดขายอยู่ที่ราว 6,500 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแพลนที่จะให้บริการซื้อสินค้าแอดไวซ์ออนไลน์สามารถรับสินค้าได้ที่สาขาใดก็ได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนา ทั้งนี้แอดไวซ์ตั้งเป้าที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯภายในไตรมาส 3 ปีหน้านี้ 

หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3501 ระหว่างวันที่ 1 - 4  กันยายน 2562