‘สยามคาร์ดีล’ฉีกมุมคิด สร้างธุรกิจ ขายรถป้ายแดงโต 3 เท่า
ในโลกที่คนเราคิดใหม่ทำใหม่ แม้จะไม่เอี่ยมชนิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนบนโลก แต่เพียงแค่พลิกมุมคิดนิดเดียว ก็สามารถสร้างธุรกิจ สร้างรายได้ มหาศาล และยังสามารถต่อยอดให้ธุรกิจของตัวเองเติบโตได้แบบยั่งยืน นี่คือ เส้นทางของ “สยามคาร์ดีล” ที่เกิดจาก “ศิริพร เชาว์ว่องเลิศ” ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคาร์ดีลฯ ที่เริ่มต้นธุรกิจเมื่อปี 2016 ด้วยแพลตฟอร์มรวบรวมโปรโมชันรถใหม่ป้ายแดง สร้างลีดการขายให้โชว์รูม และสร้างช่องทางการเข้าถึงโปรโมชันดีๆ ให้กับผู้ซื้อ
“ศิริพร” เล่าว่า เคยทำงานในองค์กรหน้าที่การตลาดและฝ่ายขายก่อน แต่เมื่อวันหนึ่งรู้สึกว่าอยากออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยที่มาของสยามคาร์ดีล เกิดจากความต้องการส่วนตัวที่ต้องการหาซื้อรถใหม่สักคัน แต่ไม่มีที่ไหนรวบรวมโปรโมชัน ของแต่ละโชว์รูมไว้ให้ดู จะมีก็เพียงเว็บรถมือ 2 ทั้งๆ ที่ในหลายประเทศมีบริการลักษณะนี้แล้ว จึงทำให้เกิดการพัฒนาเป็นเว็บแอพขึ้นมา ภายใต้ชื่อ “สยามคาร์ดีล”
เมื่อมีจุดเริ่มต้น ก็ต้องหา Pain Point ที่ไม่เพียงแต่การสร้างความสะดวกให้กับผู้ซื้อที่ต้องการมองหาโปรโมชันดีๆ ของรถใหม่ แต่ยังรวมไปถึง Pain Point ของโชว์รูม หรือดีลเลอร์ ที่ต้องการขายรถ กระตุ้นการขาย ด้วยการสร้างลีดการขายส่งให้กับบรรดาโชว์รูมที่เป็นพันธมิตร ด้วยการสร้าง Lead Management หรือ LMS ซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการข้อมูลของผู้ซื้อ รวมทั้งความต้องการ รถรุ่นไหน ราคาเท่าไหร่ สีอะไร ต้องการรถเมื่อไร และต้องการออฟเฟอร์หรือดิวด้านการชำระเงินอย่างไร
“การติดตามลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับโชว์รูม เราเลยสร้าง LMS เรามีคอลล์เซ็นเตอร์ กรองคุณภาพลูกค้าให้ก่อน สำหรับโชว์รูม เราทำหน้าที่เป็น ลีดเจเนอเรเตอร์ให้ ในเชิงของแบรนด์ เราสร้างลีดแล้วส่งให้แบรนด์ แบรนด์ส่งให้โชว์รูม หรือ เราทำการกระจายลีดให้ จากเดิมที่แบรนด์ส่งให้โชว์รูมเป็นอี-เมล์ บางทีคนไม่เปิดอ่านทันที เขาเก็บชื่อจากอีเวนต์แล้วเอามาจัดการ แล้วส่งให้โชว์รูม แต่ของเรา เก็บชื่อปุ๊บ คอลล์เซ็นเตอร์จะโทร แล้วส่งให้โชว์รูมแบบเรียลไทม์ ลีดตรงนี้จะเป็นลีดคุณภาพ ถ้าเซลส์ ได้รับแล้วโทรหาลูกค้าได้เลยทันที ก็จะเพิ่มโอกาสในการขาย”
จากแนวคิดที่เพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ปัจจุบัน มีโชว์รูมเข้าร่วมเป็นพันธมิตรแล้วราว 100 แห่ง ปีที่ผ่านมา สามารถส่งรายชื่อให้โชว์รูมประมาณ 7.5 หมื่นรายชื่อ ซึ่งเป็นรายชื่อที่คัดกรองแล้วและลูกค้าซื้อรถประมาณ 5% หรือ 3,000 คัน หรือราว
3 พันล้านบาท ในขณะที่บ้านเราขายรถปีละประมาณ1.1 ล้านคัน จากตลาดที่เติบโต 10%
ซอฟต์แวร์นี้ สามารถเช็กรายละเอียดได้เลยว่า เซลส์มีการติดตามการขายหรือไม่ ขายได้เท่าไร เหลือเท่าไร จากรายชื่อที่ได้รับไปทั้งหมด และสามารถเพิ่มรายชื่อลูกค้าเองได้ หรืออัพโหลดเป็นเอ็กเซลไฟล์ก็ได้ หรือกรณีออกบูธ เก็บรายชื่อเป็นรายคน โดยโปรแกรมจะบังคับเก็บเบอร์โทร และรายชื่อ ส่วนที่เหลือคือการเลือกคลิกหมด เพื่อความสะดวกต่อคนเก็บข้อมูล และสามารถใช้งานได้ผ่านมือถือ
ส่วนช่องทางสร้างรายได้ของสยามคาร์ดีล คือลีดการขายที่ส่งให้กับโชว์รูม ซอฟต์แวร์ การดีไซน์เว็บไซต์ให้โชว์รูม และการให้บริการคอลล์เซ็นเตอร์ ซึ่งอนาคต จากข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้สยามคาร์ดีลสามารถนำไปต่อยอดสู่บริการใหม่ๆ ได้อีกมากมาย
“ศิริพร” บอกว่า เป้าหมายของทีมคือการสร้างให้สยามคาร์ดีลเป็นศูนย์รวมดีลเลอร์โชว์รูมรถป้ายแดงทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีอยู่ทั่วประเทศราว 2,166 แห่ง แต่ถ้ารวมโชว์รูมรถมือ 2 ด้วยจะอยู่ที่กว่า 5,000 แห่ง ซึ่งอนาคต มีแผนที่จะขยายบริการ หรือการขายซอฟต์แวร์บริหารจัดการลีดการขายให้กับโชว์รูมรถมือ 2 เช่นกัน รวมทั้งการเพิ่มบริการใหม่ๆ อาทิ ประกัน และการขยายไปสู่ตลาดซีแอลเอ็มวี ที่จะได้เห็นเร็วๆ นี้ อาทิ เวียดนาม กัมพูชา และที่สำคัญคือ การขยับดีลไปสู่แบรนด์รถเจ้าตลาดทั้งหลาย ที่จะเข้ามาร่วมในแพลตฟอร์มนี้ในอนาคต
ความสำเร็จของการบริหารสยามคาร์ดีล คือการนำสิ่งที่คนมองไม่เห็นมาเริ่มทำก่อน และบริหารงานด้วยการสร้างคุณภาพของข้อมูล ที่นำไปต่อยอดทั้งการพัฒนาทีมงานขายให้กับโชว์รูม การกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มความสะดวกให้ผู้ซื้อ ทำให้ปีที่ผ่านมาสยามคาร์ดีลสามารถเติบโตได้ถึง 3 เท่าตัวเทียบจากจุดเริ่มต้น และสามารถระดมทุนได้จากกองทุน TukTuks และนักลงทุนส่วนตัว (AngelInvestor) กว่า 10 ล้านบาท
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,500 วันที่ 29 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562
