ยอดขายรถยนต์สะสม 7 เดือนโต 5.9%
ยอดขายรถยนต์สะสม 7 เดือนปี 2562 เพิ่ม 5.9% โตโยต้ายังแรงเป็นเบอร์ 1 ขณะที่ภาคการผลิตรวมเริ่มส่งสัญญาณติดลบ 0.23% เหตุจากตลาดส่งออกและในประเทศชะลอตัว
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยตัวเลขการขายรถยนต์สะสมตั้งแต่มกราคม-กรกฎาคม 2562 พบว่ามีปริมาณการขาย 604,814 คัน เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเติบโต 7.4%, ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์เติบโต 5%
ส่วน 10 อันดับยอดขายรถสูงสุดในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาได้แก่ โตโยต้า 197,262 คัน เพิ่มขึ้น 17.3%, อีซูซุ 103,011 คัน เพิ่มขึ้น 3.5%, ฮอนด้า 75,723 คัน เพิ่มขึ้น 7.7%, มิตซูบิชิ 52,484 คัน เพิ่มขึ้น 11.4 %, นิสสัน 39,585 คัน เพิ่มขึ้น 1.3%, มาสด้า 37,312 คัน ลดลง 6.6%, ฟอร์ด 31,022 คัน ลดลง 17.6%, เอ็มจี 14,849 คัน เพิ่มขึ้น 7.2%, ซูซูกิ 14,140 คัน ลดลง 11.5% และเชฟโรเลต 9,221 คัน ลดลง 10.8%
“ยอดขายสะสมทั้ง 7 เดือนที่เติบโตเป็นผลมาจากความต้องการในตลาดรถยนต์ที่มีอยู่สูงในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับข้อเสนอพิเศษต่างๆจากบริษัทรถยนต์ในหลากหลายรูปแบบที่เอื้อต่อการตัดสินใจของลูกค้า ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์”นางปวีณา นันทิกุลวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าว
อย่างไรก็ดีแม้ยอดขายสะสมในช่วง 7 เดือนจะเติบโต แต่เมื่อไปดูที่ฝั่งการผลิตทั้งหมดในประเทศกลับพบว่า ยอดผลิตรถยนต์รวมมีตัวเลขที่ลดลง 0.23 % หรือจำนวน 1,236,792 คัน
“ยอดผลิตที่ตกลงมาเป็นผลมาจากตลาดส่งออก เฉพาะเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผลิตรถยนต์นั่งลดลง 18.59% และรถกระบะ ลดลง 11.42% ส่วนการผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศนั้นก็ลดลง 6.45%” นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าว
สำหรับตัวเลขการส่งออกรถยนต์ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 642,012 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1.55% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 325,534.73 ล้านบาท ลดลง 4.47% เฉพาะเดือนกรกฎาคม 2562 ส่งออกได้ 82,151 คัน ลดลง 8.87 % โดยส่งออกตกลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตะวันออกกลาง และยุโรป หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 40,330.53 ล้านบาท ลดลง19.14%
หน้า27-28 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,500 วันที่ 29 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562