นายกฯลุงตู่สู้ศึก“ถวายสัตย์”ประกาศเป็นเรื่องของผม!

27 ส.ค. 2562 | 12:06 น.

 

ประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณของคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 สมบูรณ์หรือไม่ ยังกลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง

แม้ว่าเมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 27 สิงหาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ์  นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีเข้ารับพระราชทานพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวง รัชกาลที่ 10 แต่ปมร้อนว่าด้วยการถวายสัตย์ปฏิญาณตนยังระอุไปทั่วอณู

พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเช่นใด โดยภายหลังเข้ารับพระราชทานพระราชดำรัส นายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่อาจกล่าวได้ว่าหลังพิธีแล้วจะไปจบเรื่องอื่นใดหรือไม่  และไม่ขอตอบว่า รัฐบาลจะต้องแถลงนโยบายใหม่หรือเปล่า แต่เป็นเรื่องที่ ครม.ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณตามที่ผมได้ขอพระราชทานทำเรื่องขอพระบรมราชานุญาตไป ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าเป็นลายลักษณ์อักษรมา”

ครม.ก็จะนำไปสู่การปฏิบัติ และนำพรดังกล่าวไปใส่กรอบไว้ที่ทำงานหรือที่บ้านในที่สมควร  เช่นเดียวกับตนเองก็จะเอามาไว้ที่ทำเนียบรัฐบาล

“ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นในเรื่องของการถวายสัตย์  ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการเผยแพร่ทางสื่อต่าง ๆ วันนี้ก็เป็นลายลักษณ์อักษรมา”  นายกฯ กล่าว

สำหรับข้อซักถามที่ว่าการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้จะจบหรือไม่ว่า  นายกฯชี้แจงว่า ต้องไปถามคนวิจารณ์ถึงความเหมาะสม  ไปว่ากันมา จะไม่ไปก้าวล่วงใครทั้งสิ้น เพียงแต่ปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเท่านั้นเอง หลังจากที่ได้ทำเรื่องขอไปหลังจากวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ต่อข้อถามถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินนำเรื่องกระบวนการถวายสัตย์สมบูรณ์หรือไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปแล้ว  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ  ก็ส่งไปสิ!

เมื่อถามว่าคิดว่าเรื่องถวายสัตย์ยังมีการถามกระทู้ในสภาอีกหรือไม่นั้น  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่เขาสิ ใครมีสิทธิ์ตรงไหนก็ทำไป ส่วนเรื่องที่บอกจะเข้าไปตอบในสภานั้นตนพูดถึงเรื่องอื่น  เรื่องไหนที่ตอบได้ก็จะเข้าไปตอบ  เรื่องไหนที่ไม่ควรตอบก็ไม่ควรตอบ หรือให้คนอื่นไปตอบแทน เหมือนนายกรัฐมนตรีคนอื่น ๆ แต่จะพยายามเข้าไปรับฟังสิ่งที่พูดในสภา  เพราะสิ่งที่เป็นประโยชน์

“กระทู้สดเขาจะส่งมาแค่วันเดียว คือสิบโมงวันที่ถามกระทู้แล้วให้ตอบทันที บางทีก็กระชั้นไปนิดนึง กำลังหารือว่าจะทำยังไง เรื่องการถวายสัตย์นี้ถือเป็นเรื่องของผม ผมจะไม่ส่งคนอื่นไปชี้แจงแทน” นายกฯ ระบุ

                                                        นายกฯลุงตู่สู้ศึก“ถวายสัตย์”ประกาศเป็นเรื่องของผม!

คล้อยหลังจากนั้น เมื่อเวลา 14.10 น. ระหว่างที่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ ตึกนารีสโมสร ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินเข้ามาด้านหน้าโต๊ะแถลงข่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ คณะรัฐมนตรีจะนำไปเป็นแนวปฏิบัติต่อไป ซึ่งครม.ทุกคนมีความปลาบปลื้มปิติ"

จากนั้น ก็ได้ไปนั่งถ่ายรูปกับทีมโฆษกรัฐบาล ที่มาทำหน้าที่พร้อมกันทัั้ง 3 คน

                นายกฯลุงตู่สู้ศึก“ถวายสัตย์”ประกาศเป็นเรื่องของผม!     นายกฯลุงตู่สู้ศึก“ถวายสัตย์”ประกาศเป็นเรื่องของผม!

อีกฟากหนึ่งเมื่อเวลา 11.55 น.  รักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ที่ประชุมมีมติให้ส่งเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 46 พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 เพื่อให้วินิจฉัยว่าการที่นายกรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญและละเมิดสิทธิเสรีภาพของ นายภานุพงศ์ ชูรักษ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เป็นผู้ยื่นคำร้องหรือไม่

เรื่องนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะชี้แจงมาว่า ก่อนเข้ารับหน้าที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้ว เป็นการกระทำที่ครบถ้วนตามกระบวนการและขั้นตอน ถือว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ได้ปฏิบัติสำเร็จโดยสมบูรณ์ ทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย แต่รัฐธรรมนูญตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง ระบุ “รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทำใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้…”

เมื่อนายกฯกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ จึงเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญไปด้วย  

ปัญหาดังกล่าวทำให้ประชาชนที่เกาะติดเรื่องนี้เริ่มสงสัยว่าเป็นอย่างไรกันแน่?

 

กระทั่งเวลา 13.50 น. ที่พรรคอนาคตใหม่  ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค แถลงถึงกรณีนายกรัฐมนตรี และครม.เข้ารับพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถ์ว่า กรณีนี้ขอยืนยันตามความเห็นของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ว่า ไม่ใช่การถวายสัตย์ปฏิญาณครั้งใหม่ หนังสือหลังม่านการเมือง ที่นายวิษณุเขียนได้อธิบายไว้ว่า เมื่อนายกรัฐมนตรี นำครม.เข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ฯ เมื่อถวายสัตย์ฯ เสร็จแล้ว โดยทั่วไปพระมหากษัตริย์จะมีพระราชดำรัส เพื่ออำนวยพรหรือให้กำลังใจแก่รัฐมนตรีในการปฏิบัติหน้าที่ในฝ่ายบริหารต่อไป

                นายกฯลุงตู่สู้ศึก“ถวายสัตย์”ประกาศเป็นเรื่องของผม!      นายกฯลุงตู่สู้ศึก“ถวายสัตย์”ประกาศเป็นเรื่องของผม!

ในอดีตที่ผ่านมา ครม. ก็ได้มีการนำพระราชดำรัสเหล่านี้มาเป็นแนวปฏิบัติในการบริหารประเทศ โดยนายวิษณุได้เขียนไว้ว่าในสมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ขอพระบรมราชานุญาตนำพระราชดำรัสมาตีพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรเข้ากรอบรูปสวยงามแจก ครม. ทุกคน เพื่อให้เป็นเครื่องเตือนใจในการทำงาน  

แต่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำนั้นเป็นครั้งแรก ที่มีการจัดพิธีดังกล่าว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะทำแบบที่นายบรรหาร ทำ ครม.ชุดอื่นหรือ พล.อ.ประยุทธ์ ทำก็ถือว่า ไม่ใช่การถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่  

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ดังนั้นจึงต้องมาพิจารณาต่อไปว่า การถวายสัตย์ฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 นั้น สมบูรณ์หรือไม่ ในข้อความต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถวายสัตย์ฯ ยืนยันว่า มันไม่ครบ ตัว พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่เคยบอกว่า ตัวเองพูดครบถ้วนทุกคำตามรัฐธรรมนูญในมาตรา 161 จึงเป็นปัญหาต่อเนื่องต่อไป  

ปัญหานี้ ยังได้รับการยืนยันจากการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และต่อเนื่องไปยังว่า มติ ครม.ที่ออกมา หรือการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองต่างๆ สมบูรณ์หรือไม่ สุดท้ายจึงต้องรอดูว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร

นายปิยบุตร กล่าวว่า ในขณะเดียวกันเรามีการยื่นญัตติอภิปรายเป็นการทั่วไปโดยไม่ลงมติในสภาฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการรอบรรจุวาระอยู่ คิดว่าพี่น้องประชาชนรู้สึกอึดอัดใจว่า ทำไมเรื่องนี้ไม่จบเสียที กินเวลามาแล้วเป็นเดือน ส.ส.พรรคฝ่ายค้านจะจับจ้องอยู่กับเรื่องแค่นี้ ไม่คิดถึงเรื่องปัญหาปากท้อง ปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินเลยหรือ

“ผมอยากจบเรื่องนี้ใจจะขาด แต่คนที่จะจบได้คือ พล.อ.ประยุทธ์ ผมเป็นคนแรกที่ทักท้วงในสภาตั้งแต่วันแถลงนโยบายรัฐบาล แต่ตัวนายกฯ ไม่ยอมแก้ปัญหาเรื่องนี้ ไม่ตอบ ไม่พูดว่า ครบหรือไม่ครบ ท่านไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น ใช้วิธีเงียบ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้หวังล้มรัฐบาล แต่ต้องการความแน่นอนชัดเจน เพื่อให้ ครม. ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบตามรัฐธรรมนูญ ใครที่บอกให้จบเรื่องนี้แล้วไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจดีกว่า ช่วยไปบอก พล.อ.ประยุทธ์ให้จบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ถ้าแก้ปัญหาแต่แรก เรื่องไม่บานปลายมาขนาดนี้”

เมื่อถามว่า หลังผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นกรณีการถวายสัตย์ฯ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว ยังจะมีการเดินหน้าอภิปรายในสภาตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกับพรรคเพื่อไทย แต่พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว สภาผู้แทนราษฎรยังสามารถพิจารณาญัติติดังกล่าวได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาก่อน ซึ่งเป็นไปตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ

“รัฐสภากับศาลรัฐธรรมนูญ มีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากัน ไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร” ปิยบุตร กล่าว

ถึงตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า เกมทางการเมืองในเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณของครม.รัฐบาลลุงตู่ ต้องสู้กันยาว!

 

+ รายงานพิเศษ โดย...ทีมข่าวฐานเศรษฐกิจ