“จุรินทร์”สั่งรายงานสต๊อกข้าวเหนียว ลั่น ! พบกักตุนปั่นราคาโทษหนัก
“จุรินทร์”สั่งผู้ค้า ผู้ส่งออกข้าว โรงสี ผู้ค้าส่ง รายงานสต๊อกข้าวเหนียวด่วน! หลังพบราคาพุ่งสูงสุดรอบ 40 ปี ผู้บริโภคเดือดร้อน ลั่นใครกักตุน-ปั่นราคาหากพบโทษหนัก
ช่วงเช้าวันนี้(26 ส.ค.2562) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายของกรมการค้าภายในพร้อมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการจำหน่ายข้าวเหนียวสำหรับชาวบ้านผู้บริโภคในประเทศ ซึ่งกำลังมีราคาแพง(ข้าวสารเหนียวตก 40-50 บาทต่อกก.สูงสุดรอบ 40 ปี จากผลผลิตขาดแคลน) สร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคเวลานี้
ที่ประชุมได้ข้อสรุปเพิ่มเติมร่วมกันในการแก้ปัญหาเรื่องราคาข้าวเหนียวแพง สิ่งที่จะดำเนินการคือ จะใช้ประกาศตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว ฉบับที่ 150 ซึ่งมีอยู่แล้วแต่จะให้อธิบดีกรมการค้าภายในได้ดำเนินการออกหนังสือสั่งการให้ผู้ที่อยู่ในแวดวงการค้าข้าวทั้งหมดทั้งในประเทศและส่งออก รวมทั้งโรงสีและผู้ค้าส่ง ได้รายงานสต๊อกข้าวเหนียวมาที่กรมการค้าภายใน ภายในวันที่ 27 สิงหาคม 2562 สิ้นสุดเวลา 16.30 น. โดยสามารถรายงานทางออนไลน์ได้ด้วย
“กรมการค้าภายในจะดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด โดยอธิบดีกรมการค้าภายในจะได้ออกคำสั่งต่อไป เพื่อจะตรวจสอบว่ามีการกักตุนข้าวเหนียวเพื่อปั่นราคาหรือไม่ และมีการจำหน่ายข้าวเหนียวราคาสูงเกินสมควรหรือไม่ ถ้าพบความผิด คือ 1. ไม่ได้มีการรายงานสต๊อก 2.มีการกักตุน 3. มีการค้าขายในราคาสูงเกินสมควร ก็จะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป”
ทั้งนี้การไม่รายงานสต๊อกหรือรายงานไม่ตรงกับความเป็นจริง จะมีโทษทั้งจำคุกและปรับ โดยจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการกักตุนมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท ซึ่งเป็นกระบวนการที่กระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดติดตาม โดยได้มอบให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์สั่งการพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจำหน่ายข้าวเหนียวหรือทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้าวเหนียวได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้มอบ
ส่วนเรื่องการออกมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ได้หารือกับอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์แล้ว จะรีบหารือกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อจะหาลู่ทางว่าสามารถที่จะทำข้าวเหนียวออกจำหน่ายในราคาพิเศษได้หรือไม่ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริโภคขณะนี้
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมจะออกประกาศให้ผู้ที่ครอบครองข้าวเหนียวแจ้งปริมาณที่ถือครอง มายังกรมหรือที่พาณิชย์จังหวัดตั้งแต่วันที่ 26-27สิงหาคมก่อนเวลา16.30น.และในวันพุธที่ 28 สิงหาคม จะเชิญเอกชน ประกอบด้วย โรงสี ห้างสรรพสินค้า ผู้ผลิตข้าวถุง และผู้ค้าข้าวถุงมาหารือเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค โดยเบื้องต้นจะผลิตข้าวเหนียวบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัม มาจำหน่ายในราคาต่ำกว่า 50 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะจำหน่ายผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น จะเน้นจำหน่ายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)และกรุงเทพ และผ่านร้านค้าปลีกปกติ แต่จะมีเงื่อนไข คือผู้ชื้อจะต้องถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น โดยจำกัดคนละ 2 ถุง หรือ10 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งคาดว่าต้นเดือนกันยายนน่าจะสามารถวางจำหน่ายได้