เตือนเล่นน้ำทะเลปลายฝนต้นหนาวเสี่ยงเจอแมงกะพรุนพิษ

25 ส.ค. 2562 | 09:35 น.

กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขเตือนประชาชนที่ลงเล่นน้ำทะเลระมัดระวังแมงกะพรุนที่มีพิษโดยเฉพาะในช่วงมรสุมหรือหลังฝนตกใหม่ๆและปลายฝนต้นหนาวแนะหากพบผู้ที่สงสัยถูกพิษแมงกะพรุนห้ามขัดถูหรือขยี้ในบริเวณที่ถูกแมงกะพรุนเพราะจะทำให้มีการยิงพิษเพิ่มขึ้น

เตือนเล่นน้ำทะเลปลายฝนต้นหนาวเสี่ยงเจอแมงกะพรุนพิษ

วันนี้(25 สิงหาคม2562) นายแพทย์อัษฏางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยประชาชนที่เที่ยวทะเลในช่วงมรสุมและฝนตกอาจเจอแมงกะพรุนที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาชายหาดได้โดยแมงกะพรุนที่พบทั่วไปในทะเลไทยมีหลายชนิดทั้งมีพิษและไม่มีพิษและพบแมงกะพรุนมากขึ้นในช่วงมีมรสุมของปีรวมถึงช่วงฝนตกหรือหลังฝนหยุดใหม่ๆเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้รับรายงานพบผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนพิษ(Jellyfish-related injury) ที่เกาะพะงันจังหวัดสุราษฎร์ธานีจำนวน3 รายมีอาการปวดแสบบริเวณลำตัวสงสัยว่าถูกพิษแมงกระพรุนกล่องสายเดียวแต่ไม่เห็นตัวแมงกระพรุนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

แมงกะพรุนที่เป็นอันตรายและมีพิษรุนแรงคือแมงกะพรุนกล่องซึ่งมีลักษณะโปร่งใสรูปร่างทรงสี่เหลี่ยมมีหนวดยื่นออกมาในแต่ละมุมและหนวดอาจยาวเท่ากับความสูงของคนแมงกะพรุนกล่องแบ่งเป็น2 กลุ่มคือชนิดที่มีหนวดเพียงเส้นเดียวในแต่ละมุมและชนิดที่มีหนวดหลายเส้นในแต่ละมุมซึ่งกลุ่มนี้มีหนวดรวมๆแล้วประมาณ12-15 เส้นและผู้เสียชีวิตเกิดจากชนิดที่มีหนวดหลายเส้นซึ่งกระเปาะพิษจะอยู่ที่สายหนวดหนึ่งตัวอาจมีกระเปาะพิษถึงล้านถุงทำให้แมงกะพรุนกล่องจัดเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุดซึ่งพิษของแมงกะพรุนกล่องมีพิษ3 แบบคือ1.ทำให้เซลล์ผิวหนังตาย2.มีอาการปวดรุนแรงและ3.หากได้รับพิษในปริมาณมากและพิษเข้าสู่กระแสเลือดและจะเข้าสู่หัวใจทำให้หัวใจหยุดเต้นและระบบหายใจล้มเหลวอาจเสียชีวิตได้ภายใน2-10 นาที

       

 

สำหรับการป้องกันแมงกะพรุนพิษขอให้ประชาชนระมัดระวังการลงเล่นน้ำทะเลในช่วงมีมรสุมหรือปลายฝนต้นหนาวในวันคลื่นลมสงบอากาศแจ่มใสหรือหลังฝนตกใหม่ๆโดยเฉพาะแถวชายหาดระดับน้ำตื้นๆแนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่เป็นLycra suit หรือเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวซึ่งควรเป็นผ้าที่มีเนื้อแน่นและแนบลำตัวหากสงสัยว่าถูกพิษแมงกะพรุนให้ปฐมพยาบาลตามขั้นตอนเพื่อให้ผู้ป่วยพ้นวิกฤตก่อนดังนี้1.นำผู้บาดเจ็บขึ้นจากน้ำ  2.เรียกให้คนช่วยหรือเรียกรถพยาบาล(โทร1669) แต่ห้ามทิ้งให้ผู้บาดเจ็บอยู่ตามลำพังเพราะอาจหมดสติภายในเวลาไม่กี่นาที  3.ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆเพื่อลดการยิงพิษจากแมงกะพรุน 4.ราดน้ำส้มสายชูที่ใช้กันตามครัวเรือนตรงบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุนพิษทันทีโดยราดอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยนาน30 วินาทีและห้ามขัดถูหรือขยี้รวมถึงห้ามราดน้ำจืด น้ำปัสสาวะและแอลกอฮอล์บริเวณที่ถูกแมงกะพรุนเพราะจะทำให้มีการยิงพิษเพิ่มขึ้น  และ5.ถ้าผู้ป่วยหมดสติและไม่มีชีพจรให้ปั๊มหัวใจก่อนหากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรคโทร. 1422