‘หมอเสริฐ’ ส่อวืด แชมป์เศรษฐีหุ้น   

25 ส.ค. 2562 | 23:00 น.

“หมอเสริฐครึ่งปี ถือครองหุ้น 3 บจ. รวม 75,445,640,765 บาท ส่อเสียแชมป์ให้ GULF หลังราคาหุ้นไม่ขยับแรง โบรกฯ ชี้กลุ่มการแพทย์และสายการบินโตจำกัด เสี่ยงแข่งขันดุ

สถานการณ์ตลาดทุนปัจจุบันที่ผันผวน ราคาหุ้นขึ้นลงด้วยปัจจัยรอบด้าน ทั้งสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน เศรษฐกิจหลายประเทศชะลอตัว และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ทำให้ราคาหุ้นบางตัวปรับขึ้นแรง และบางตัวปรับลงแรงได้เช่นกัน โดยจากการสำรวจการถือครองหุ้นเป็นรายบุคคล พบว่า แชมป์เศรษฐีหุ้น 6 สมัย อย่าง นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถหรือ หมอเสริฐอดีตผู้บริหารบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS) ถูกเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 คือ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) เบียดแซงขึ้นมาครองแชมป์ในครึ่งปีแรกแทน   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยของวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2561  นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2561 และเป็นการครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 6 แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 77,129.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,602.02 ล้านบาท หรือ 21.41%

 

‘หมอเสริฐ’  ส่อวืด แชมป์เศรษฐีหุ้น   

ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ

สำหรับหุ้นที่นายปราเสริฐถือครองในปี 2561 มี 4 บริษัท ได้แก่ บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 18.47% รวมมูลค่า 73,786.86 ล้านบาท บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BA) สัดส่วน 10.61% มูลค่า 2,985.22 ล้านบาท บริษัท โรงพยาบาลนนทเวช จำกัด (มหาชน) (NTV) สัดส่วน 0.79% มูลค่า 75.48 ล้านบาท และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) สัดส่วน 24.60% มูลค่า 281.75 ล้านบาท

ขณะที่ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม-22 สิงหาคม 2562 ราคาหุ้น BDMS ปรับลดลง 1.40 บาท หรือ 5.7% ราคาหุ้น BA ลดลง 2.70 บาท หรือ 23.27% และ NTV ลดลง 3.50 บาท หรือ 6.33% ส่วนราคาหุ้นปิดวันที่ 29 มิถุนายน 2561 เปรียบเทียบกับราคาปิดวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ราคาหุ้น BDMS เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 4% ราคาหุ้น BA เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.75% และ NTV ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.41% ส่งผลให้มูลค่าการถือครองหุ้นใน3 บริษัทของนายปราเสริฐ อยู่ที่ 75,445,640,765 บาท

‘หมอเสริฐ’  ส่อวืด แชมป์เศรษฐีหุ้น   

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วงที่เหลืออีก 4 เดือนของปีนี้ มีโอกาสที่นายปราเสริฐจะเสียแชมป์เศรษฐีหุ้น เนื่องจากราคาหุ้นที่ถือครองทั้งกลุ่มการแพทย์และกลุ่มสายการบินไม่ปรับขึ้นแรงมากเท่ากับราคาหุ้น GULF ที่ส่งให้นายสารัชถ์มีมูลค่าถือครองหุ้นพุ่งขึ้นมาเกือบแสนล้านบาท ทั้งนี้มองว่าปีนี้เป็นปีที่เหนื่อยสำหรับกลุ่มสายการบิน และกลุ่มการแพทย์เติบโตอย่างจำกัด ทำให้มูลค่าการถือครองหุ้นกลุ่มนี้ไม่โดดเด่นมากนัก

ขณะเดียวกัน มองว่ากลุ่มการแพทย์ยังมีการเติบโต แต่เป็นการเติบโตแบบช้าๆ จากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่ลดลง ซึ่งที่ผ่านมาโรงพยาบาลของไทยส่วนใหญ่จะได้รับประโยชน์จากผู้ป่วยต่างชาติที่ได้สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง แต่ปัจจุบันได้เริ่มมีการเปิดโรงพยาบาลรักษาภายในประเทศเอง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารักษาในไทยลดลง ทั้งนี้ อาจจะเกิดความเสี่ยงในการแย่งผู้ป่วย ส่งผลให้โรงพยาบาลมีโอกาสที่จะเกิดการแข่งขันมากขึ้น โดยการลดค่ารักษาพยาบาล หรือออกโปรแกรมการรักษาเพื่อดึงลูกค้า ถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อกลุ่มการแพทย์

กลุ่มการแพทย์แม้จะยังมีการเติบโต แต่ภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวลง ทำให้ผู้ป่วยมีความระมัดระวังในเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น ตรงนี้อาจจะเป็นความเสี่ยงต่อกลุ่มการแพทย์ที่ทำให้เติบโตได้อย่างจำกัด

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,499 วันที่ 25-28 สิงหาคม 2562

‘หมอเสริฐ’  ส่อวืด แชมป์เศรษฐีหุ้น