ครม.เศรษฐกิจมั่นใจส่งออกปีนี้โต3% สวนทางเอกชนมองติดลบ0.9%

23 ส.ค. 2562 | 06:34 น.

พาณิชย์ เผยครม.ชุดใหญ่รับทราบเป้าหมายส่งออกปี 62 โต 3% แล้ว พร้อมตั้งเป้าปี 63 บวก 3.5% ได้แน่ สวนทางเอกชนมองติดลบ 0.9%  เตรียมเดินหน้าเร่งเจาะทุกตลาดเต็มทที่

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์ส่งออกไตรมาส 3 ปี 2562 ร่วมกับภาคเอกชน ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญภาคเอกชน จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกลุ่มผู้ส่งออกสินค้าสำคัญทั้งข้าว น้ำตาล ยางพารา สมาคมอาหารสำเร็จรูป สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สมาคมผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินไทย รวมถึงภาคเอกชนในตลาดใหญ่ อย่างสภาธุรกิจไทย-อินเดีย และสภาธุรกิจไทย-จีน  มาหารือในวันนี้(23 ส.ค.2562)โดยกรมฯยังคงดำเนินงานตามเป้าหมายของรัฐบาล หลังจากจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)และได้มีการรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่ทราบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้ประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจไทย รวมถึงการส่งออกที่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะขยายตัวได้ 3 % ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกของไทยทั้งปีขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 3% เช่นกัน ขณะที่ได้ตั้งเป้าหมายในปี 2563 จะขยายตัวได้ที่ 3.5 %

ครม.เศรษฐกิจมั่นใจส่งออกปีนี้โต3% สวนทางเอกชนมองติดลบ0.9%

 ทั้งนี้ในที่ประชุมภาคเอกชนในหลายกลุ่มสินค้าเห็นตรงกันว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ การส่งออกเริ่มดีขึ้นกว่าในครึ่งปีแรก แต่มีการประเมินว่าทั้งปีนี้จะยังหดตัวที่ 0.9%  ดังนั้นการที่จะให้เป้าหมายเติบโตที่ 3%  โดยที่ช่วงที่เหลือของปีจะต้องผลักดันการส่งออกให้ได้เฉลี่ย 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เมื่อทุกฝ่ายทำงานร่วมกันและลดปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ได้ก็เชื่อว่าเป้าหมายเติบโต3% ก็เป็นไปได้

นอกจากนี้ได้รับฟังปัญหาที่เอกชนเรียกร้อง โดยเฉพาะการเร่งปลดล็อกการเจรจาความตกลงฉบับต่างๆ โดยเฉพาะอาร์เซ็ป, FTA ไทย-อียู, FTA ไทย-อังกฤษ และการทำตลาดใหม่อย่างอินเดีย รวมทั้งการดูแลค่าเงินบาทให้ใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่ง และในด้านกฎระเบียบทางการค้าในประเทศที่มีความซับซ้อนอย่างเช่นจีนและอินเดีย ควรจะมีการแจ้งล้วงหน้า เพื่อที่เอกชนจะได้ปรับตัวและแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วขึ้น หากสามารถปลดล็อกได้เชื่อว่า ภาพรวมการส่งออกในปีนี้ ยังมีโอกาสขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้ และหลังจากนี้ จะมีการทำงานร่วมกับเอกชนใกล้ชิด เพื่อจัดทำแผนเป็นรายตลาด และรายสินค้าให้ชัดเจน