ทีวีโฮมช็อปปิ้งดิ้นสู้ ชูคอลล์เซ็นเตอร์-อีคอมเมิร์ซกระตุ้นยอด

25 ส.ค. 2562 | 07:35 น.

ธุรกิจทีวีโฮมช็อปปิ้ง เจอปัจจัยลบรอบด้าน เร่งปรับเกมลุยช่องทางใหม่เพิ่ม “ไฮ ช้อปปิ้ง-ทีวีดี ช้อปปิ้ง” พลิกแผนเน้นคอลเซ็นเตอร์และอี-คอมเมิร์ซกระตุ้นใช้จ่าย

จากข้อมูลสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง ได้นำเสนอภาพรวมธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้ง ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 13,823 ล้านบาท เติบ โตจากปีก่อนหน้า 15.5% ปัจจัยมาจากมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้า สู่ตลาด อาทิ Workpoint, Amarin และผู้ประกอบการทีวีช่องอื่นๆ ที่เริ่มเข้ามาทำธุรกิจทางด้านนี้ ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีอัตราการเติบโตชะลอตัวลง โดยมีมูลค่าตลาดรวม 7,351 ล้านบาท เติบโต 12.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าตลาดรวมดังกล่าวแบ่งเป็นธุรกิจทีวีช็อปปิ้ง 4,243 ล้านบาท โฮมช็อปปิ้ง 3,107 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ตลาดเติบโตชะลอตัวมาจากภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีแรกของปีนี้มีอัตราเติบโตลดลง ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อสินค้า ขณะที่ธุรกิจทีวีโฮมช็อปปิ้งปัจจุบันมีการแข่งขันสูงขึ้น

นายลี แฮ ซึง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฮ ช้อปปิ้ง จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดทีวีโฮมช็อปปิ้งมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้นถ้าเทียบกับ 3-4 ปีก่อน รวมทั้งมีวันหยุดเกิดขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้เวลาการออกอากาศโปรโมตสินค้ามีน้อยลง จึงส่งผลให้เป้าหมายรายได้ที่เคยคาดการณ์ ไว้ว่าจะเติบโตจากปีก่อน 40% อาจจะลดลงมาเล็กน้อยเหลือเพียงแค่ 15-20% จากรายได้ปีก่อนปิดอยู่ที่ 900 ล้านบาท ดังนั้นแผนธุรกิจในปีนี้ของไฮ ช้อปปิ้งยังคงให้ความสำคัญกับ ทุกแพลตฟอร์มเช่นเดิมทั้งในรูปแบบของทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม และออนไลน์ แต่จะมุ่งเน้นเรื่องของคอลล์เซ็นเตอร์และออนไลน์มากขึ้น

ทีวีโฮมช็อปปิ้งดิ้นสู้ ชูคอลล์เซ็นเตอร์-อีคอมเมิร์ซกระตุ้นยอด

                                        ลี แฮ ซึง

“ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของไฮ ช้อปปิ้ง มาจาก 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย ทีวีดิจิทัล 25% ออนไลน์ 10% และทีวีดาวเทียม 65% เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่อยู่บนช่องทางทีวีดาวเทียมเป็นหลักซึ่งช่องทางนี้บริษัทไม่ได้กังวลแต่อย่างใด แต่ในด้านของแพลตฟอร์มทีวีดิจิทัลปัจจุบันหลังจาก 7 ช่องทีวีคืนไลเซนส์แล้วเกิดการทำธุรกิจยากขึ้น เนื่องจากการเช่าเวลาในอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลลดลง และมีราคาสูงขึ้นดังนั้นในครึ่งปีหลังบริษัทจึงได้ปรับแผนโดยมุ่งใช้กลยุทธ์กระตุ้นลูกค้าผ่านช่องทางคอลล์เซ็นเตอร์มากขึ้น รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อทำคอนเทนต์บนช่องทางออนไลน์มากขึ้น”

ทีวีโฮมช็อปปิ้งดิ้นสู้ ชูคอลล์เซ็นเตอร์-อีคอมเมิร์ซกระตุ้นยอด

สำหรับเป้าหมายหลักของบริษัทขณะนี้ต้องการสร้างการรับรู้ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม รวมทั้งต้องพยายามหาสินค้าที่แตกต่างเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนที่หลากหลาย ขณะที่ปัจจุบันกลุ่มสินค้าหลักของบริษัทยังเป็นชุดเครื่องครัว ของใช้ภายในบ้าน และเครื่องสำอางเป็นหลัก

ด้านนายธนะบุล มัทธุรนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีดี ช้อปปิ้ง จำกัด กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ 7 ช่องทีวีดิจิทัลคืนไลเซนส์ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบในด้านนี้มากเท่าไรเนื่องจากช่องทางการจำหน่ายสินค้ามาจากบนแพลต ฟอร์มทีวีดาวเทียม 90% และอี- คอมเมิร์ซ 10% ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากลุ่มอี-คอมเมิร์ซมีอัตราการเติบโตที่ดี บริษัทจึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะลุยการตลาดรูปแบบ Omni Channel มากขึ้นหรือเจาะทุกแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยช่องทางทีวีดาวเทียมจะเน้นลูกค้าที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปขณะที่ออนไลน์เจาะกลุ่มเด็กและคนรุ่นใหม่

ทีวีโฮมช็อปปิ้งดิ้นสู้ ชูคอลล์เซ็นเตอร์-อีคอมเมิร์ซกระตุ้นยอด

                               ธนะบุล มัทธุรนนท์

“ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทวางงบประมาณการลงทุนเฉลี่ยปีละประมาณ 50 ล้านบาทในเรื่องของ ฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีอื่นๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นผู้ชมจากทีวีไปซื้อสินค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ มากขึ้นตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชื่นชอบความสะดวกสบายมากขึ้น ขณะที่เป้าหมายรายได้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโต 15-20% จากปีก่อน ที่มีรายได้กว่าพันล้านบาท” 

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3499 ระหว่างวันที่ 25 - 28 สิงหาคม 2562