“สมคิด”สั่งBOI ทำแพ็คเกจดึงลงทุนใหม่ เจาะรายประเทศ ประเดิมทัพเกาหลีใต้ 200 ราย

22 ส.ค. 2562 | 09:21 น.

“สมคิด" มอบนโยบาย "บีโอไอ" สั่งทำงานเชิงรุก พลิกวิกฤติสงครามการค้า เป็นโอกาสของไทยดึงการลงทุน จากการย้ายฐานการผลิตของต่างชาติ พร้อมจัดทำแพ็คเกจส่งเสริมฯ เป็นรายประเทศ แบบจัดหนัก ประเดิมรับลงทุนเกาหลีใต้ ที่จะมาดูลู่ทางการลงทุน 2 ก.ย.นี้ ด้านบีโอไอเร่ง ตั้งทีมเฉพาะกิจรองรับ ชงมาตรการส่งเสริมใหม่ให้ครม.เศรษฐกิจ พิจารณา 30 ส.ค.นี้ ขณะที่ประธานใหญ่หัวเว่ยจ่อเยื่อนไทยพ.ย.นี้ ลงทุน 5 G

 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มาตรวจเยี่ยมและมอบหมายนโยบายให้กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พร้อมหัวหน้าสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศ 16 แห่ง (วันที่ 22 ส.ค.62) เพื่อให้ทำงานเชิงรุกมากขึ้นในการชักจูงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน โดยจะต้องใช้โอกาสของสถานการณ์สงครามการค้าที่เกิดขึ้น ที่นักลงทุนมีความจำเป็นต้องย้ายฐานการผลิตไม่เพียงแต่นักลงทุนจีน สหรัฐอเมริกา เท่านั้น แต่ยัง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป ที่จะขยายฐานการผลิต โดยมีไทยเป็นประเทศเป้าหมายสำคัญ ที่นักลงทุนต่างชาติต้องการใช้ไทยเป็นฐานการกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคหรือกลถ่ม CLMV

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

ดังนั้น บีโอไอจะต้องเร่งจัดทำมาตรการหรือแพ็คเกจด้านสิทธิประโยชน์การลงทุนให้ครอบคลุมทุกด้าน ไม่เพียงแต่สิทธิประโยชน์ทางภาษีเท่านั้น แต่ยังมีมาตรการจูงใจอื่นๆ ที่จะต้องจัดทำแบบบูณณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อรองรับการย้ายการผลิตของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะเป็นรายประเทศ  และจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ในการประชุมวันที่ 30 สิงหาคม 2562 นี้ ก่อนที่จะเสนอไปยังคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบอร์ดบีโอไอต่อไป

 

“ในการหารือกับนักลงทุนที่ผ่านมา มองว่าไทยมีปัญหาด้านบุคคลากรที่จะมารองรับภาคอุตสาหกรรม รวมถึงภาคบริการ ดังนั้น บีโอไอ จะต้องไปเร่งดำเนินการในส่วนนี้ว่า จะมีมาตรการอะไรเข้าไปส่งเสริมให้เกิดการสร้างบุคลากรได้เพิ่มขึ้น”


“สมคิด”สั่งBOI ทำแพ็คเกจดึงลงทุนใหม่ เจาะรายประเทศ ประเดิมทัพเกาหลีใต้ 200 ราย

นอกจากนี้ ในวันที่ 2 กันยายน นี้ จะมีคณะนักลงทุนจากประเทศเกาหลีใต้ประมาณ 200 คน มีประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อหารือทางการค้ากับนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งจะมีเวทีชี้แจ้งให้ข้อมูลกับนักลงทุนที่มา เพื่อชักจูงให้มากลงทุน รวมถึงการพบปะนักลงทุนของไทยรายใหญ่ๆ ราว 300 ราย เพื่อร่วมมือกันทางธุรกิจ ดังนั้น มาตรการหรือแพ็คเกจที่จะออกมาจะต้องรองรับหรือความต้องการของนักลงทุนเกาหลีใต้ให้ได้ โดยเฉพาะการจัดหาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี ที่นักลงทุนเกาหลีใต้ ต้องการให้เป็นนิคมฯภาษาเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ไปดำเนินการจัดหาพื้นที่แล้ว

 

ขณะที่นักลงทุนจากจีนที่จะมาลงทุนนั้น ล่าสุดได้หารือกับผู้บริหารของหัวเว่ย ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน ได้แจ้งว่าในเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้ ประธานใหญ่ของหัวเว่ยจะเดินทางมาไทย ซึ่งจะเป็นบริษัทแรกๆที่จะมาลงทุนด้าน 5G ที่ไทยมีแผนที่จะส่งเสริมให้เกิดระบบ 5G ในปี 2563 หัวเว่ยจึงขอให้ช่วยเร่งศึกษาโครงสร้างต่างๆ รองรับไว้ และจะเข้ามาลงทุนในปีหน้าเป็นต้นไป รวมถึงนักลงทุนจากสิงคโปร์มีความสนใจที่จะลงทุนในพื้นที่อีอีซี เพื่อขยายฐานการผลิต ซึ่งต้องการให้ฝ่ายไทยจัดเวทีประชุมในการความร่วมมมือด้วย

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์

 

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ กล่าวว่า ในการดำเนินงานเชิงรุกบีโอไอจะต้องดำเนินงาน 4 ด้าน ได้แก่ 1. การจัดทำแพ็คเกจมาสนับสนุนดึงการลงทุนเพิ่มขึ้น 2. การจัดทีมงานเฉพาะกิจ เพื่อมาดูแลนักลงทุนที่จะย้ายฐานมากลงทุนโดยเฉพาะ 3. กิจการทางการตลาดที่จะต้องทำการโรด์โชว์ต่างประเทศให้มากขึ้น และ 4.ลดขั้นตอนการอนุมัติและอนุญาต ซึ่งแพ็คเกจส่งเสริมฯที่จะจัดทำขึ้นครั้งนี้จะเอื้อในการดึงการลงทุนเข้าอีอีซีเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้บีโอไอมีรายชื่อนักลงทุนเป้าหมายที่จะย้ายฐานการลงทุนมาไทยกว่า 100 บริษัทแล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากจีน

“สมคิด”สั่งBOI ทำแพ็คเกจดึงลงทุนใหม่ เจาะรายประเทศ ประเดิมทัพเกาหลีใต้ 200 ราย