ศูนย์ LogHealthติดปีก 26รพ.ต้นแบบ LogisticsChampionsรับมือยุคดิสรัพชั่น

21 ส.ค. 2562 | 09:56 น.

ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ (LogHealth) คณะวิศวะ ม.มหิดล ผนึก 26โรงพยาบาลต้นแบบในกทม.และต่างจังหวัด เปลี่ยนผ่านด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านระบบวิศวกรรมโลจิสติกส์ เพื่อแก้ปัญหาและยกระดับการบริหารจัดการ ลดความแออัดของผู้ใช้บริการ ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการบริการประชาชนและความถูกต้องแม่นยำ พร้อมทั้งวางแผนอนาคตตั้งเป้าขยายผลพัฒนาโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อรองรับการก้าวสู่สังคมสูงวัยของประเทศและส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในอนาคตอีกด้วย

ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์  คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดงานสัมมนาวิชาการ “Hospital Logistics Network : ติดปีกโรงพยาบาลยุคดิสรัพชั่น”กล่าวว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์และสุขภาพโดยมุ่งสู่การเป็นเมดิคัลฮับ(Medical Hub) ของภูมิภาคอาเซียนแต่โลกวันนี้และอนาคต  มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วซึ่งจะก่อให้เกิดดิสรัปชั่น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ได้ริเริ่มโครงการ Hospital Logisticsซึ่งจะช่วยเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด สามารถรับมือยุคดิสรัพชั่น ในการยกระดับพัฒนาความปลอดภัยของผู้ป่วยด้วยคุณภาพ  และสามารถให้บริการที่รวดเร็วและแม่นยำ จากปัญหาโลจิสติกส์ ในรพ.

  ศูนย์ LogHealthติดปีก 26รพ.ต้นแบบ LogisticsChampionsรับมือยุคดิสรัพชั่น

ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ศึกษาวิจัยด้าน Healthcare Logistics ดำเนินโครงการ Train the Trainer โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสร้างบุคลากรโรงพยาบาลให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักการ  และสามารถนำแนวความคิดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการจัดการโลจิสติกส์ในโรงพยาบาลไปประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม  ต่อยอดสู่การปฏิบัติได้จริงในโรงพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน  ทั้งเป็นผลดีต่อการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสูงวัย ส่งเสริมธุรกิจเฮลท์แคร์รักษาพยาบาลในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติที่มีมูลค่า 1 แสนล้านบาทและส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของประเทศในอนาคตซึ่งมีมูลค่าราว 26,000 ล้านบาทอีกด้วย

รศ.ดร.ดวงพรรณ ศฤงคารินทร์  หัวหน้าศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ (LogHealth)เผยว่า ความปลอดภัยในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย (Patient Safety) ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของการแพทย์และสุขภาพที่ไทยและประชาคมโลกตื่นตัว  โดยกระบวนการในการรักษามีหลายขั้นตอน ปัญหาที่มักพบใน รพ. ได้แก่ ความแออัดของผู้มาใช้บริการ ขาดการจัดการปัญหาการจัดซื้อหรือสำรองยาไม่ถูกต้องแม่นยำ  การสูญเสียงบประมาณขณะที่แต่ละหน่วยงานในหลายโรงพยาบาลยังไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ  จึงขาดระบบข้อมูลในการติดตามและสอบย้อนกลับยาและเวชภัณฑ์เหล่านั้นได้ 

ศูนย์ LogHealthติดปีก 26รพ.ต้นแบบ LogisticsChampionsรับมือยุคดิสรัพชั่น

ศูนย์ LogHealth  ได้ศึกษาวิจัยลงพื้นที่และวิเคราะห์ออกแบบโครงการโลจิสติกส์ในโรงพยาบาล โดยได้พัฒนาต้นแบบ Logistics Champion26 โรงพยาบาล ผ่านการอบรมหลักสูตร Train the Trainer : Logistics in Hospital โครงการนี้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงแก่โรงพยาบาล  โดยสามารถลดมูลค่าสินค้าคงคลังลงได้ มากกว่าร้อยละ 30 ส่งผลให้การบริหารการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น, ลดระยะเวลารอคอยของผู้รับบริการ อย่างน้อย ร้อยละ 20 , ลดขั้นตอนกระบวนการด้านระบบพัสดุ (ยาและเวชภัณฑ์) กระบวนการจัดซื้อ และลด Lead Time ในการรอคอยสินค้า, ลดปริมาณการสำรองยาและเวชภัณฑ์ใหม่ โดยใช้เทคนิค ABC Analysis ทำให้มูลค่าสินค้าคงคลัง (ยาและเวชภัณฑ์) ลดลงอย่างน้อย ร้อยละ 20, พัฒนากระบวนการขนส่งในโรงพยาบาล ใช้ทรัพยากรบุคคล อุปกรณ์การขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตทางศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ (LogHealth) มีแผนจะขยายความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ

การดำเนินงานโครงการ Hospital Logisticsที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ได้พัฒนา26 โรงพยาบาลต้นแบบLogistics Championได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช กทม.,โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จ.ปทุมธานี,โรงพยาบาลรามาธิบดี กทม.,โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จ.สงขลา,  โรงพยาบาลสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ, โรงพยาบาลอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ,ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จ.นครนายก,โรงพยาบาลสวนผึ้ง จ.ราชบุรี, โรงพยาบาลเลิดสิน กทม.,โรงพยาบาลชลบุรี จ.ชลบุรี,โรงพยาบาลเชียงดาว จ.เชียงใหม่, โรงพยาบาลนวมินทร์ กทม.,โรงพยาบาลลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์, 

โรงพยาบาลวัง จ.พิษณุโลก, โรงพยาบาลสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร, โรงพยาบาลสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี,โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี , โรงพยาบาลวชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กทม.,โรงพยาบาลวัดเพลง จ.ราชบุรี ,โรงพยาบาลสระบุรี จ.สระบุรี, ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จ.นครนายก, โรงพยาบาลมะการักษ์ จ.กาญจนบุรี,โรงพยาบาลอุดรธานี จ.อุดรธานี, โรงพยาบาลคูเมือง จ.บุรีรัมย์, โรงพยาบาลศรีณรงค์ จ.สุรินทร์, โรงพยาบาลเชียงแสน จ.เชียงราย  และโรงพยาบาลแพร่ จ.แพร่     

ศูนย์ LogHealthติดปีก 26รพ.ต้นแบบ LogisticsChampionsรับมือยุคดิสรัพชั่น

ด้านรศ.นพ.เชิดชัย  นพมณีจํารัสเลิศ รองผู้อํานวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่าจากความแออัดและความล่าช้าในบริการ ทางศิริราชฯ ได้เข้าร่วมโครงการHospital Logisticsกับศูนย์ LogHeath วิศวะมหิดล โดยดำเนินการศึกษา วิเคราะห์ ออกแบบและใช้เทคโนโลยีวางระบบโลจิสติกส์ของอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา ทำให้เกิดระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพทั้งในส่วนของการไหล, กระบวนการ และการจัดการทรัพยากรในระบบโลจิสติกส์  เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดของประชาชนผู้รับบริการและการดำเนินการในกระบวนการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ 
โครงการHospital Logistics ยังได้ศึกษาพัฒนาและจัดตั้งหน่วยขนส่งกลาง รวมทั้งวิเคราะห์ออกแบบเส้นทางขนส่งที่เหมาะสม ครอบคลุมสินค้า 7 หมวด ได้แก่ เวชภัณฑ์ยา , เวชภัณฑ์ไม่ใช่ยา , น้ำเกลือ , เวชภัณฑ์ปลอดเชื้อ , สิ่งส่งตรวจ , พัสดุ , น้ำดื่มทั้งนี้ช่วยให้บริการรักษาและการขนส่งในโรงพยาบาลเป็นไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ศูนย์ LogHealthติดปีก 26รพ.ต้นแบบ LogisticsChampionsรับมือยุคดิสรัพชั่น

ส่วนรศ.นพ.พฤหัส  ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  ถ่ายทอดประสบการณ์ว่า ปัญหาหลักที่โรงพยาบาลต้องการพัฒนาให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก คือ การทำงานซ้ำซ้อนและความล่าช้า จึงได้ร่วมมือกับศูนย์ LogHealth วิศวะมหิดล ดำเนินโครงการโดยจัดตั้งระบบขนส่งกลาง สำหรับหมวดเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ พัสดุและพัฒนาระบบโปรแกรมสารสนเทศครอบคลุมให้บริการรับ-ส่ง ผ้า สะอาด/สกปรก  ส่งเวชภัณฑ์ทางการแพทย์  ส่งวัสดุสำนักงาน  ส่งเวชภัณฑ์เฉพาะทาง ให้บริการจัด-รับ-ส่ง เครื่องมือของงานจ่ายกลาง ถึงหน่วยงานทั้งโรงพยาบาล รวมทั้งการจัดส่งยาผลิตเอง ให้บริการรับใบสั่งยา และส่งยาผู้ป่วยในไปยังหอผู้ป่วยต่างๆ ขยายการให้บริการในส่วนงานโภชนาการ 

ศูนย์ LogHealthติดปีก 26รพ.ต้นแบบ LogisticsChampionsรับมือยุคดิสรัพชั่น

ทั้งนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อโรงพยาบาลหลายด้าน เช่น ลดระยะเวลาและลดจำนวนบุคลากรที่ใช้ในการรับ-ส่งเครื่องมือ ผ้า เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ วัสดุสำนักงาน เวชภัณฑ์เฉพาะทาง กว่าร้อยละ 20นอกจากนี้ยังดำเนินโครงการพัฒนาการบริหารจัดการวัสดุเวชภัณฑ์ด้วยระบบบาร์โค้ด เพื่อติดบาร์โค้ด วัสดุเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ทุกชิ้น สำหรับการเบิก-จ่าย ครอบคลุมจุดจ่ายคลัง ห้องยา ไปจนถึงจุดใช้ ที่ผู้รับบริการ ห้องยาและหอผู้ป่วย เป็นต้น  ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพการให้บริการและเชื่อมต่อการบริหารจัดการด้านการเงินได้ถูกต้อง แม่นยำด้วย

รศ.นพ.ประสิทธิ์ วุฒิสุทธิเมธาวี ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายโรงพยาบาลสงขลานครินทร์  ซึ่งเข้าร่วมโครงการHospital Logisticsเผยว่า ก่อนหน้านี้ รพ.พบปัญหาขาดการบูรณาการข้อมูลซึ่งทำให้การบริการประชาชนและการบริหารติดขัด  จึงได้พัฒนาระบบโลจิสติกส์  ทำให้การบริหารจัดการโรงพยาบาลทุกขั้นตอนให้มีความโปร่งใสนำข้อมูลที่เป็นจริงไปใช้ได้  สามารถลดปริมาณสต็อกในคลังลงได้  กำหนดปริมาณสต็อกได้อย่างเหมาะสม พัฒนามาตรฐานระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดี พัฒนาประสิทธิภาพสต๊อกยาผู้ป่วยใน รพ.สงขลานครินทร์ ด้วยระบบ Logisticsโดยใช้ข้อมูลอัตราการใช้จริง ลดมูลค่าการสำรองน้ำเกลือลงได้ ลดปัญหา Dead Stock ลดพื้นที่ในการสำรองน้ำเกลือบนหอผู้ป่วยมีระบบขนส่ง PSU Logistics Patient Transportation (PSU LPT)ให้บริการเวรเปลทันเวลาโดยวิเคราะห์ ออกแบบตามหลักวิศวกรรมโลจิสติกส์