‘3 เจ้าสัว’ กำไรอู้ฟู่ ไตรมาส 2 โกย 1.7 หมื่นล้าน ‘กลุ่มช้าง’ รุ่งสุด   

18 ส.ค. 2562 | 08:05 น.

 

 

 

 

3 ตระกูลดัง จิราธิวัฒน์ เจียรวนนท์ และสิริวัฒนภักดี มีกำไรสุทธิรวมไตรมาส 2 ที่ 17,259.79 ล้านบาท และครึ่งปีแรกอยู่ที่ 39,378.65 ล้านบาทกลุ่มช้างรุ่งสุดมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ด้านจิราธิวัฒน์และเจียรวนนท์ กอดคอลดลง      

           รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 และงวด 6 เดือน ปี 2562 กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในเครือของ 3 ตระกูลดัง คือ จิราธิวัฒน์ เจียรวนนท์ และสิริวัฒนภักดี  มีกำไรสุทธิรวมในไตรมาส 2 ปี 2562 อยู่ที่ 17,259.79 ล้านบาท ลดลง 10,916.85 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิรวมที่ 28,176.64 ล้านบาท และงวด 6 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 39,378.65 ล้านบาท ลดลง 7,282.37 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือน ปี 2561 อยู่ที่ 46,661.02 ล้านบาท ซึ่งตระกูลที่มีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นคือ สิริวัฒนภักดี ส่วน จิราธิวัฒน์ และเจียรวนนท์ มีผลกำไรสุทธิลดลง

       สำหรับตระกูลสิริวัฒนภักดี ไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทในเครือมีกำไรสุทธิรวม 2,789.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 365.07 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิรวม 2,424.03 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิรวม 7,103.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 576.32 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือน ปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิรวม 6,527.40 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทในเครือที่มีผลกำไรมากที่สุด คือ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (BJC) ที่ในไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 1,527.56 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,031.61 ล้านบาท  

‘3 เจ้าสัว’ กำไรอู้ฟู่ ไตรมาส 2 โกย 1.7 หมื่นล้าน ‘กลุ่มช้าง’ รุ่งสุด   

         ด้านตระกูลจิราธิวัฒน์ ในไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทในเครือมีกำไรสุทธิรวม 3,326.83 ล้านบาท ลดลง 888.25 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิรวม 4,215.08 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิรวม 8,055.38 ล้านบาท ลดลง 1,120.23 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือน ปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิรวม 9,175.61 ล้านบาท โดยบริษัทในเครือที่มีผลกำไรมากที่สุด คือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN) ที่ในไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 2,469.67 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,316.64 ล้านบาท  

 

        ขณะที่ ตระกูลเจียรวนนท์ในไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทในเครือมีกำไรสุทธิรวม 11,143.86 ล้านบาท ลดลง 10,393.67 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิรวม 21,537.53 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิรวม 24,219.55 ล้านบาท ลดลง 6,738.46 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือน ปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิรวม 30,958.01 ล้านบาท โดยบริษัทในเครือที่มีผลกำไรมากที่สุด คือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) ที่ในไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 4,794.61 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,563.79 ล้านบาท

       ทั้งนี้ บริษัทที่มีผลกำไรสุทธิลดลงมากที่สุด คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TRUE) ของตระกูลเจียรวนนท์ โดยไตรมาส 2 ปีนี้มีกำไรสุทธิ 1,060.30 ล้านบาท ลดลง 8,691.08 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนงวด 6 เดือนปีนี้ มีกำไรสุทธิ 2,568.99 ล้านบาท ลดลง 6,509.83 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษค่าชดเชยพนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ ผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล (DIF) และการด้อยค่าของสินทรัพย์

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน ทางด้านตระกูลสิริวัฒนภักดี ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยดำเนินการให้บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) เตรียมเข้าระดมทุนในตลท. เพื่อให้บริษัทมีมาตรฐานและความยั่งยืน รวมถึงช่วยให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งและเป็นระบบมากขึ้น ส่วนตระกูลจิราธิวัฒน์ เตรียมนำบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) (ROBINS) เพิกถอนออกจากบจ. ซึ่งรวมธุรกิจค้าปลีกภายใต้บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CRC) จากนั้นจะดำเนินการให้ CRC เป็นบริษัทจดทะเบียนเพียงรายเดียว

บล.เอเซีย พลัส จก.ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ คาดจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อในประเทศให้เพิ่มสูงขึ้น และส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มต่างๆ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อาทิ MINT, ERW และ CENTEL ได้รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น ROBINS และ BJC ซึ่งหุ้นที่ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่อยู่ในเครือธุรกิจของทั้ง 3 ตระกูล

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,497 วันที่ 18-21 สิงหาคม 2562

‘3 เจ้าสัว’ กำไรอู้ฟู่ ไตรมาส 2 โกย 1.7 หมื่นล้าน ‘กลุ่มช้าง’ รุ่งสุด