จีอีลั่น ไม่จริง! หลังถูกแฉตกแต่งบัญชี ปกปิดปัญหาการเงิน

16 ส.ค. 2562 | 04:34 น.

ราคาหุ้นของจีอี (เจเนอรัล อิเล็กทริก) ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันที่มีธุรกิจหลากหลายครอบคลุมตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านไปจนถึงหัวรถจักร กังหันลม  ยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยีอากาศยานและพลังงาน ยันบริการด้านการเงิน ดำดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 11 ปีเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2562 หลังจากมีรายงานความยาว 175 หน้าแฉออกมาว่า จีอีมีพฤติกรรมซุกซ่อนอำพรางปัญหาทางการเงินมาเป็นเวลานานย้อนไปถึงช่วงต้นปี 2538 โดยมีการตกแต่งบัญชีคิดเป็นมูลค่าวงเงินถึง 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.17 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 40% ของมูลค่าหลักทรัพย์ของจีอีตามราคาตลาดในเวลานี้

ลอว์เรนซ์ "แลร์รี" คัลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี

แต่หลังจากราคาหุ้นของจีอีในตลาดสหรัฐฯดิ่งวูบลงดังกล่าว ซึ่งเป็นการดิ่งลง 11% มาปิดที่ราคาหุ้นละ 8.01 ดอลลาร์ ก็มีรายงานข่าวว่า นายลอว์เรนซ์  คัลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีอี ได้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าด้วยการซื้อหุ้นของบริษัทคิดเป็นมูลค่าเกือบ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 62 ล้านบาท) ซึ่งในหนังสือที่ยื่นแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (เอสอีซี) เมื่อเย็นวานนี้ (15 ส.ค.เวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) ระบุว่านายลอว์เรนซ์ซื้อหุ้นจีอีจำนวน 252,200 หุ้นในมูลค่าหุ้นละประมาณ 7.93 ดอลลาร์ ทำให้หุ้นของเขาในจีอีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และราคาหุ้นของจีอีก็ปรับสูงขึ้นประมาณ 2.5% ในการซื้อขายหลังปิดตลาด  ทั้งนี้ เขาเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของจีอีในปีที่ผ่านมา  


 

+ที่เห็น...แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง

นายแฮรี มาร์โคโพลอส ผู้จัดทำรายงานแฉพฤติกรรมอำพรางของจีอีว่า “นี่คือคดีฉ้อโกงที่ใหญ่ยิ่งกว่าคดีเอ็นรอน” ซึ่งเป็นการกล่าวเทียบเคียงถึงคดีดังในอดีต คือการฉ้อโกงตกแต่งบัญชีของบริษัท เอ็นรอน ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของสหรัฐฯ ที่สุดท้ายบริษัทต้องยื่นล้มละลายปลายปี 2544 นับเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาตร์ของอเมริกา และมีพนักงานหลายหมื่นคนต้องตกงาน ราคาหุ้นของเอ็นรอนที่เคยทำสถิติสูงสุดที่หุ้นละ 90.75 ดอลลาร์หล่นลงมาเหลือ 0.61 ดอลลาร์ในวันสุดท้ายของการซื้อขาย  นายมาร์โคโพลอส คือผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบบัญชี และตีแผ่พฤติกรรมอำพราง-กลโกงการทำบัญชีการเงินของบรรดาบริษัทนิติบุคคล เขาคนนี้คือผู้เปิดโปงการฉ้อโกงอื้อฉาวในกองทุนแมดดอฟของนายเบอร์นาร์ด แมดดอฟ ซึ่งเป็นการโกงในลักษณะแชร์ลูกโซ่สร้างความเสียหายกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ และตกเป็นข่าวใหญ่ในปี 2551 (โดยแมดดอฟในวัย 71 ปีถูกตัดสินจำคุก 150 ปี)

  แฮรี มาร์โคโพลอส

สำหรับกรณีของจีอี นาย มาร์โคโพลอส เผยว่า เขากับทีมงานใช้เวลา 7 เดือนในการวิเคราะห์การจัดทำบัญชีของจีอี “เราเชื่อว่ามีการฉ้อโกงในวงเงิน 38,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งนี่อาจเป็นแค่ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น” รายงานความยาว 175 หน้าที่มาร์โคโพลอสจัดทำออกมาและเผยแพร่ในเว็บไซต์ www.gefraud.com ระบุว่า บริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ปกปิดปัญหาทางการเงินมานานและจำเป็นต้องเพิ่มเงินสำรองประกันภัยของบริษัทให้มากกว่านี้ ซึ่งการฉ้อโกงของจีอีครั้งนี้ครอบคลุมการจัดทำบัญชีของหน่วยงานด้านน้ำมันและก๊าซในเครือด้วย  โดยรายงานของมาร์โคโพลอสเผยว่า จีอีปกปิดซุกยอดขาดทุนของบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจบริการในอุตสาหกรรมน้ำมัน คือ บริษัท เบเกอร์ ฮิวจ์ เอาไว้มากกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์

 

เนื้อหาส่วนหนึ่งของรายงานยังระบุว่า  จีอีมีพฤติกรรมฉ้อโกงด้านการจัดทำบัญชีมายาวนานมาก ย้อนหลังไปถึงช่วงต้นปี 2538 ซึ่งเป็นยุคที่บริษัทอยู่ภายใต้การบริหารของนายแจ็ค เวลช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)

 

มีความเป็นไปได้ว่าท้ายที่สุดแล้วจีอีอาจจะต้องเข้าสู่กระบวนการยื่นขอความคุ้มครองจากกฎหมายล้มละลาย ในอดีตนั้น บริษัทเวิลด์คอมและเอ็นรอนใช้เวลา 4 เดือนในกระบวนการต่างๆ เพื่อขอความคุ้มครองจากศาลภายใต้กฏหมายล้มละลาย มาดูกันว่าจีอีจะใช้เวลากี่เดือนนายมาร์โคโพลอสกล่าว ทั้งนี้ เขาได้มอบรายงานฉบับนี้ให้กับคณะเจ้าหน้าที่ควบคุมกฏระเบียบของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯแล้ว

 

+จีอีลั่นจอมแฉเจตนาปั่นหุ้น

อย่างไรก็ตาม นายลอว์เรนซ์ คัลป์ ซีอีโอของจีอี ออกแถลงการณ์ระบุว่า ข้อกล่าวหาของนายมาร์โคโพลอส  ไม่เป็นความจริงและมีเจตนาปั่นหุ้น “รายงานของคุณมาร์โคโพลอสมีข้อความที่เป็นเท็จ และข้อกล่าวหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง ได้รับความกระจ่าง  เพียงแค่เขาเข้ามาเช็คข้อมูลกับจีอีก่อนที่จะตีพิมพ์เผยแพร่รายงานนี้ออกมา”   ผู้บริหารของจีอีกล่าวว่า  นายมาร์โคโพลอสได้รับผลประโยชน์จากการรับจ้างจัดทำและเผยแพร่รายงานฉบับนี้ ซึ่งตัวเขาเอง (มาร์โคโพลอส) ก็ยอมรับกับสื่อใหญ่อย่างซีเอ็นบีซีว่า ได้รับการว่าจ้างจัดทำรายงานจากเฮดจ์ฟันด์รายหนึ่งที่เขาขอไม่ระบุชื่อ และได้รับเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งจากกำไรที่เฮดจ์ฟันด์ดังกล่าวทำได้เมื่ออยู่ฝั่งตรงข้ามกับจีอี

 

เลสลี ไซด์แมน ผู้อำนวยการบอร์ดบริหารของจีอี ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบบัญชีภายในองค์กรของจีอีเอง ออกมาปฏิเสธรายงานของมาร์โคโพลอสเช่นกัน โดยระบุว่ารายงานฉบับนี้มีการตีความหลายแห่งที่เป็นการตีความแบบนึกคิดเอาเอง  “เขายังยอมรับเองด้วยว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากปฏิกริยาของตลาดที่มีต่อเนื้อหารายงานของเขาในวันนี้ (15 ส.ค.)” ไซด์แมนระบุ