จากการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตอยู่ในระดับตํ่า ส่งผลกระทบอย่างมาก ทำให้ภาครัฐเตรียมจะออกมาตรการในหลายเรื่องเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเร่งด่วน รวมถึงไทยจะมีแนวทางระยะยาวในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างไร อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
พิพัฒน์ รัชกิจประการ
ชงฟรีวีซ่าจีน-อินเดีย 1 ปี
ปีนี้แม้การท่องเที่ยวของไทย ต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ในหลายปัจจัย ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการแข็งค่าของเงินบาทที่เรากังวลอยู่ แต่ก็ต้องพยายามเต็มที่ในการผลักดันเป้าหมายการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้า (3.38 ล้านล้านบาท) ทำให้ในขณะนี้ภาครัฐเตรียมจะออกหลายมาตรการที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยว
โดยในส่วนของการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมาเที่ยวไทย จะเน้นมาตรการเรื่องวีซ่า ซึ่งหลังจากการยกเว้นค่าธรรมเนียม visa on arrival แก่นักท่องเที่ยว 21 ชาติ สิ้นสุดภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ผมเตรียมเสนอครม.อนุมัติใน 2 เรื่อง ได้แก่ 1. ออกมาตรการยกเว้นให้นักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย เดินทางมาเที่ยวไทย 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าไทย(ฟรีวีซ่า) เป็นเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562-สิ้นเดือนตุลาคม 2563
2. ขยายมาตรการยกเส้นค่าธรรมเนียมวีซ่า VOA ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เหลืออีก 19 ชาติ จากสิ้นสุดปลายตุลาคมปีนี้ ไปสิ้นสุดตุลาคมปีหน้า เพราะแม้รัฐจะสูญเสียค่าธรรมเนียม VOA ในช่วงครึ่งปีแรกไปราว 1 หมื่นล้านบาท แต่ได้รายได้กลับมาจากการท่องเที่ยวราว 2 หมื่นล้านบาท
ปีหน้าดึงอินเดียเที่ยวไทย3ล.
ทั้งนี้มาตรการฟรีวีซ่าในตลาดจีนและอินเดีย ผมได้มีการรือกับนายกรัฐมนตรี รองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แล้ว ซึ่งท่านไม่ขัดข้อง เพราะเป็นการอำนวยความสะดวก และแก้ปัญหาความแออัด และล่าช้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเป็นกรุ๊ป จะมาแออัดกันแน่นระหว่างมารอทำวีซ่าในสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ ภูเก็ต
ส่วนข้อกังวลว่าการยกเว้นการทำวีซ่ามาเที่ยวไทยเรื่องความมั่นคงหรือไม่ ผมไม่กังวลเลย วันนี้เราให้เขาทำวีซ่า ถ้าเขาจะหลบหนีเข้ามา เขาก็เข้ามาอยู่ดี ตำรวจก็ไปตามจับได้อยู่แล้ว ซึ่งตำรวจไทยเก่ง ผมมั่นใจว่าดูแลได้
มาตรการนี้คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้อย่างช้าภายในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าการฟรีวีซ่า จะทำให้นักท่องเที่ยวอินเดีย ที่ในช่วงครึ่งปีแรกมาเที่ยวไทย 8 แสนคน มากกว่าปีที่แล้ว จะเพิ่มเป็น 2 ล้านคนในปีนี้และเพิ่มเป็น 3 ล้านคนในปีหน้า จากในปีที่ผ่านมามีคนอินเดียมาเที่ยวไทย 1.7 ล้านคน อีกทั้งผมจะเดินทางไปโปรโมตอินเดียให้มาไทยเพิ่มขึ้น โดยไปทั้งภาครัฐ เอกชน
อีกทั้งมาตรการฟรีวีซ่า ยังทำให้กระตุ้นตลาดจีน เพราะหากไม่ทำอะไรเลย จีนจะไม่เติบโต เพราะจากผลของเงินบาทแข็งค่า ทำให้จีนมาไทยจะมีค่าใช้จ่ายแพงขึ้นกว่าเดิม 10-20% ซึ่งเราหวังว่ามาตรการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน จะช่วยให้ตลาดจีน เติบโตตามเป้า 7-8% หรือมาเที่ยวไทยปีนี้ราว 11-12 ล้านคน เพิ่มจากปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 10.5 ล้านคนปีนี้ 11-12 ล้านคน เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยโตเพียง 0.8%
แจก1,000 บาทดันใช้จ่ายข้ามจังหวัด
สำหรับการกระตุ้นในเรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ กระทรวงการคลังเตรียมจะออกมาตรการในเรื่องของการแจกเงินให้คนละ 1-1.5 พันบาท เพื่อส่งเสริมให้นำไปใช้จ่ายในการเดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งการได้เดินทางก็คือการได้ไปใช้จ่ายและท่องเที่ยวนั่นเอง โดยจะนำไปใช้ในเมืองรองหรือเมืองหลักก็ได้ ยกเว้นการใช้จ่ายในจังหวัดที่ตัวเองอยู่ เพื่อให้เงินมีการหมุนเวียน
ในรายละเอียดว่าจะแจกอย่างไร คาดว่าในวันที่ 23 สิงหาคมนี้น่าจะชัดเจน หลังจากการนำเสนอมาตรการนี้ในครม.วันที่ 20 สิงหาคมนี้ ที่จะเสริมเพิ่มจากมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยว ที่เราต้องทำประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น และตอนนี้ก็น่าจะดีขึ้น เพราะมีผู้ประกอบการมาจดทะเบียนเพิ่มขึ้น
เบื้องต้นวิธีการแจก 1-1.5 พันบาทจะเป็นในลักษณะการให้โหลดผ่านแอพพลิเคชันของธนาคารกรุงไทย กำหนดไว้ที่ 10 ล้านคน ใครลงทะเบียนก่อนได้สิทธิก่อน แต่เพื่อให้เกิดการกระจายไปได้ในทุกพื้นที่ทั่วไทย ก็จะใช้วีธีกำหนดโควตาการแจกโดยดูจากจำนวนประชากรในพื้นที่ ถ้าประชากรมากก็จะให้โควตาในการโหลดเพื่อรับสิทธิได้มากกว่าจังหวัดที่มีประชากรน้อย เพราะถ้าไม่กำหนดโควตา ก็จะถูกมองว่าคนกรุงเทพฯได้โอกาสมากกว่าพื้นที่อื่น ซึ่งในการลงทะเบียนการโหลดก็จะใช้บัตรประชาชน ทำให้สามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ใครได้รับสิทธิเงินก็จะถูกโอนเข้าไปทันที เพื่อนำไปใช้จ่ายในการเดินทางข้ามจังหวัด ตามร้านค้าหรือโรงแรมต่างๆ ซึ่งร้านค้าต้องเข้ามาลงทะเบียนขอคิวอาร์โค้ด โดยจะเปิดให้ร้านค้ามาลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนนี้ เป็นเวลา 10 วัน เพื่อให้มาตรการแจกเงิน 1-1.5 พันบาท เริ่มดำเนินการได้ และสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน แต่กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะขอให้ขยายเวลาไปจนถึงธันวาคมนี้
ช็อกราคาเที่ยวทั่วไทย 100 บาท
ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯยังจะเสนออีก 2-3 เรื่อง ที่จะขอสนับสนุนงบจากรัฐบาล กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเสริมไปอีก
อาทิ โครงการ 100 บาทช็อปเที่ยวทั่วไทย โดยจะเป็นการเปิดให้ดาวน์โหลดผ่านแอพพลิ เคชัน โดยให้สิทธิจ่ายในราคา 100 บาท สำหรับการช็อปปิ้งหรือท่องเที่ยวทั่วไทย ซึ่งจะกำหนดให้เพียง 1 หมื่นคนแรกเท่านั้น จะซื้อตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ร้านอาหาร จ่ายเพียง 100 บาทเท่านั้น กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ที่เราจะเปิดหาพันธมิตรต่อไป โครงการนี้จะจัดเพียง 1 วันต่อเดือน จัดจำนวน 4 เดือน (ก.ย-ธ.ค.นี้) เช่น วันที่ 9 เดือน 9, วันที่ 10 เดือน 10, วันที่ 11 เดือน 11, วันที่ 12 เดือน 12
ส่วนอีก 2 โครงการยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแต่ยังไม่สะเด็ดนํ้า บอกได้เพียงว่าเน้นการลดแลกแจกแถม เช่นการให้ส่วนลดออนท็อปอีก 10% กระจายทุกจังหวัด เป็นต้น รวมถึงเราและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างหารือถึงการขยายเวลาสถานบันเทิงในเมืองท่องเที่ยว อย่างป่าตอง จ.ภูเก็ต, พัทยา, อ่าวนาง จ.กระบี่, หลีเป๊ะ จ.สตูล, ถนนข้าวสาร จ.กรุงเทพฯ จาก 12.00 น. เป็น 04.00 น.
ดังนั้น จากมาตรการ กระตุ้นเหล่านี้ในทุกเรื่อง ก็มองว่าเราน่าจะทำรายได้ท่องเที่ยว ได้ตามเป้า
สัมภาษณ์ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3497 วันที่ 18-21 สิงหาคม 2562