เปิดมหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ BIDC 2019 ดันไทยสู่ฮับเอเชีย  

14 ส.ค. 2562 | 09:46 น.

ภาครัฐผนึกภาคอุตสาหกรรมเปิดมหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์“Bangkok International Digital Content Festival 2019” หรือ BIDC 2019 ครั้งที่ 6 ภายใต้แนวคิด Digital Co-creation เป็นการผนึกพลังความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ให้เข้มแข็งและยั่งยืนหนุนไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคเอเชียพร้อมเปิดเวทีจับคู่เจรจาการค้า หวังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เปิดมหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ BIDC 2019 ดันไทยสู่ฮับเอเชีย  

นายจักรินทร์  โกมลสิริ  นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ   กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า  การจัดงาน“Bangkok International Digital Content Festival 2019” หรือ BIDC 2019 ครั้งที่6 เป็นการผนึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมโดยมีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์กับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือTCEB และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้า(depa) ร่วมกับภาคเอกชน LINE CREATORS MARKET โดยบริษัทไลน์คอมพานี(ประเทศไทย) จำกัด และ 5 สมาคมจากภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยประกอบด้วยสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย(TACGA) สมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย(DCAT) สมาคมอีเลิร์นนิ่งแห่งประเทศไทย (e-LAT) และสมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ(BASA)  สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย(TGA) เพื่อแสดงศักยภาพความพร้อมของอุตสาหกรรมผู้ประกอบการไทยและยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความเข้มแข็งและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ BIDC 2019 นับเป็นงานด้านดิจิทัลคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและสร้างโอกาสในธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ทั้งด้านแอนิเมชัน, เกม, คาแรกเตอร์,อี-เลิร์นนิ่ง, คอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์,เวอรชวลเอฟแฟ็กท์รวมถึงเทคโนโลยีใหม่และการศึกษา(Emerging Technology & education) ให้เป็นที่รู้จักและนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัลที่สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 และเศรษฐกิจดิจิทัล ไทยเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคเอเชีย

 

 “ภายในงานยังได้จัดกิจกรรมเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการด้านดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยและต่างชาติเข้าร่วมกว่า39 บริษัทจาก12 ประเทศได้แก่ ญี่ปุ่นเกาหลีจีนสิงคโปร์อินเดียอินโดนีเซียไต้หวันฟินแลนด์โปแลนด์สเปนฮ่องกงและมาเลเซียที่จะเข้าร่วมเจรจาการค้าหรือBusiness Matching อาทิเช่นบริษัทวอลล์ดีสนีย์(Walt Disney Company) ผู้ผลิตภายนตร์และแอนิเมชันระดับโลก, CCTV Animation เป็นสถานีโทรทัศน์รายใหญ่ที่มีผู้รับชมมากที่สุดในจีน, Bandai Namco Studios และGrasshopper Manufacturing ทีมพัฒนาเกม LET IT DIE เป็นต้นและมีผู้ประกอบการไทย 67 ราย อาทิ บริษัทกันตนาแอนิเมชั่นสตูดิโอจำกัดซึ่งสร้างผลงานภาพยนตร์แอนเมชันที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักฝีมือคนไทย “ก้านกล้วย”  , RiFF Studio ทีมสร้างแอนิเมชันไทยที่ได้ร่วมสร้างผลงานแอนิเมชันตอนสั้นกับสตูดิโอจากญี่ปุ่นที่จะร้อยเรียงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในโปรเจกต์The Force of Will และYGGDRAZI สตูดิโอผลิตผลงานด้านแอนิเมชันเวอรชวลและผู้พัฒนาเกม VR Home Sweet Home และทูสปอร์ตสตูดิโอเจ้าของคาแรกเตอร์กระต่าย Bloody Bunny ร่วมเจรจาจับคู่ธุรกิจรวม480 นัดหมายในครั้งนี้โดยหวังว่าการสนับสนุนจากภาครัฐจะต่อยอดจากงานครั้งนี้และจะยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จมีการเจรจาการค้าคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า850 ล้านบาททั้งนี้การดำเนินงานในส่วนนี้นับเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมส่งเสริมฯในการสนับสนุนและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์” 

 

 

เปิดมหกรรมดิจิทัล คอนเทนต์ BIDC 2019 ดันไทยสู่ฮับเอเชีย  

ทางด้านนายนพธรรม วานิช ผู้แทนสมาคมจากภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยในฐานะผู้แทนภาคอุตสาหกรรม กล่าวว่าสำหรับงาน“Bangkok International Digital Content Festival 2019”  หรือ BIDC 2019 ภายใต้แนวคิด Digital Co-creation ซึ่งสื่อถึงการผนึกพลังความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมเสมือนจิ๊กซอร์เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ให้เข้มแข็งและยั่งยืน  โดยมีภาครัฐเป็นฟันเฟืองในการสนับสนุนและส่งเสริมด้านเครือข่ายในต่างประเทศสำหรับภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลฯมาเติมในส่วนของการคิดและพัฒนาชิ้นงานในสาขาต่างๆทั้งด้านแอนิเมชัน, เกม,คาแรกเตอร์, อี-เลิร์นนิ่ง, คอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ และเวอรชวลเอฟแฟ็กท์ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่และการศึกษา (Emerging Technology & education) 

 

สำหรับบทบาทสำคัญของกลุ่มสมาคมได้ดำเนินการสนับสนุนช่วยเหลือด้านธุรกิจการค้าและการพัฒนาสินค้าแก่สมาชิกรวมถึงสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศรวมถึงยังเป็นตัวกลางระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการในการเชื่อมโยงทั้ง 2 ส่วนเพื่อให้การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอาทิเช่นการผสมผสานเทคโนโลยีแห่งอนาคต AI ปัญญาประดิษฐ์ AR-VR ความเป็นจริงเสมือนสภาพแวดล้อมเสมือน ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมใหม่ในหลายๆกลุ่มอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมกรรมด้านการเงินเกมและการศึกษานอกจากนี้ยังมีกลุ่มแอนนิเมชันและเกมซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตและยังเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยรวมทั้งกลุ่มคาแรกเตอร์ที่สามารถต่อยอดและสร้างมูลค่าให้กับภาคอุตสาหกรรมไม่น้อยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์หลักๆของ 5 สมาคมเป็นกลไกสำคัญของการอุตสาหกรรมด้านดิจิทัลเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ 

 

นอกจากนี้ข้อมูลสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้าจากผลสำรวจแนวโน้มการเติบโตมูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ในไทยปี 2561 คาดว่าจะแตะระดับกว่า 27,005 ล้านบาท และมีมูลค่ากว่า 29,358 ล้านบาทในปี 2562 โดยสาขาอุตสาหกรรมแอนิเมชันมีคาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 9% และยังคงการเติบโตเป็น 9% ในปี 2562 ขณะที่สาขาเกมคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 9% และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 9% ในปี 2562  สำหรับสาขาคาแรคเตอร์คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 12% ในปี 2561 และ 11% ในปี 2562 ซึ่งจากตัวเลขการเติบโตแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของอุตสาหกรรมฯ ที่ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาคเอเชีย

 

“ภายใน“Bangkok International Digital Content Festival 2019”  ประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ งานแสดงผลงานด้านดิจิทัลคอนเทนต์(Show Case) จากผู้ประกอบการไทยระดับแนวหน้าด้าน E -learning, Animation & VFX , Game, Original Character, Emerging technology  กว่า40 บริษัทเพื่อเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จักและนำไปสู่การต่อยอดทางธุรกิจให้ภาคอุตสาหกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่14-16  สิงหาคมและพิธีมอบรางวัลประจำปีด้านดิจิทัลคอนเทนต์ในสาขาต่างๆ “BIDC Awards 2019” ให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่มีผลงานโดดเด่นในรอบปีซึ่งเป็นเวทีนำเสนอผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดเชิงธุรกิจในอนาคตรวม 25 รางวัลจาก5 กลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อเป็นต้นแบบในอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ไทยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดความสำเร็จในอนาคต