เปิดข้อมูลเชิงลึกการเติบโตดิจิทัลทรานฟอร์มฯไทย

เอบีม คอนซัลติ้ง เปิดข้อมูลเชิงลึกการเติบโตดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นไทย เผยอยู่ในระยะที่ 2 ในมิติของการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในขณะที่มิติด้านการบริหารจัดการ ทั้งด้านกลยุทธ์ องค์กร บุคลากรและกระบวนการทำงาน ยังคงอยู่ในระยะแรก  ปรับทัพให้บริการที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น

นายอิชิโร ฮาระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจในรูปแบบดิจิทัลทรานสฟอร์เมชั่น ในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึก หรือ Insight study ด้วยวิธีการศึกษาแบบเชิงคุณภาพ (Qualitative study) เกี่ยวกับการเติบโตของดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในประเทศไทย พบว่าองค์กรธุรกิจส่วนใหญ่มีการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอยู่ในระยะที่ 2 ในมิติของการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น มีการใช้ซอฟต์แวร์ แอพพลิเคชันหรือ SAAS มีการผสมผสานข้อมูลไซโล (Silo) และมีการวิเคราะห์ข้อมูลแบบคาดการณ์ โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในกลุ่มตลาดรถยนต์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และตลาดสินค้าอุปโภค-บริโภค ในขณะที่มิติด้านกลยุทธ์ องค์กร บุคลากร และกระบวนการทำงาน ยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น โดยการทำดิจิทัลทรานฟอร์มฯ จะต้องทำในมิติสำคัญ 5 มิติ ประกอบด้วยมิติกลยุทธ์ มิติองค์กร มิติเทคโนโลยี มิติบุคลากร และมิติกระบวนการ เพื่อปรับทุกมิติให้มีความคล่องตัวในการทำงาน สามารถพร้อมปรับเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกในปัจจุบัน และรองรับการเติบโตในอนาคตได้อย่างต่อเนื่อง

การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เป็นเพียงการนำเทคโนโลยีมาใช้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงงานบริหารด้านกลยุทธ์ การเป็นผู้นำ กระบวนการทำงาน และโดยเฉพาะการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ที่จะต้องมีการสอดประสานไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ 7 ด้าน ได้แก่  1.การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยมีผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้กำหนดทิศทาง , 2.มีวัฒนธรรมองค์กรและความตระหนักรู้เกี่ยวกับดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยที่ทุกหน่วยงานพร้อมเปิดรับ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น  , 3.มีกลยุทธ์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ที่ตอบโจทย์ในส่วนไอทีและส่วนธุรกิจ

4.มีการปฏิรูปการวิเคราะห์และกระบวนการต่าง ๆ ด้วยการออกแบบที่สุดยอด ในการออกแบบนวัตกรรมกับเทคโนโลยีดิจิทัล , 5.มีการปฏิบัติการทางดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นด้านไอที ตามพื้นฐานของกลยุทธ์ทางดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ,6.มีการปฏิรูปองค์กร ด้วยการเร่งให้เกิดความคิดใหม่ ๆ ให้เกิดการทำงานร่วมกันจากทุกฝ่าย   และ7.มีการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล พร้อมให้ความรู้ใหม่ ๆ ที่มาจากการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น

ทั้งนี้ เอบีม คอนซัลติ้ง มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นให้ครบทุกมิติ จึงได้มีการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดประเทศไทย โดยได้เพิ่มบริการใหม่ ที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (HCM) ภายหลังจากการรับโอนธุรกิจจาก บริษัท อิเมอร์ริทิส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำบริษัทที่ปรึกษาอันดับหนึ่งด้านระบบ HCM ของไทย นับเป็นการให้บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นที่ครอบคลุม และสามารถให้บริการโซลูชั่นของ SAP ได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น สามารถนำพาองค์กรและธุรกิจก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านคน วัฒนธรรม รวมทั้งวิธีการทำงาน ที่เกิดขึ้นภายในองค์กร

นอกจากนี้ เพื่อให้บริการที่ปรึกษาแบบครบวงจร เอบีม คอนซัลติ้ง ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานภายใน ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าองค์กรธุรกิจ โดยเปลี่ยนจากการแบ่งฝ่ายตามบริการที่ปรึกษาประเภทต่าง ๆ เป็นแบ่งโครงสร้างออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่มที่แบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมของธุรกิจตามประเภทธุรกิจของลูกค้า และกลุ่มงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล โดยรวมงานบริการ 7 ด้านที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญไว้ในกลุ่มดังกล่าว ทั้งนี้ ในปี 2561 ที่ผ่านมา เอบีม คอนซัลติ้ง มีรายได้ในประเทศไทยรวม 702 ล้านบาท คาดว่าในปี 2562 จะมีรายได้เติบโตประมาณ 29 % มากกว่าปีที่ผ่านมา หรือ 906 ล้านบาท

อนึ่ง บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีใน 7 บริการ ได้แก่ บริการที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ (Strategy) บริการที่ปรึกษา CIO (CIO advisory) บริการที่ปรึกษาด้านการขายและโลจิสติกส์ (Sales & logistics) บริการด้านการบริหารและการควบคุมการเงิน (Financial management & control) บริการที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (Human Capital Management) บริการที่ปรึกษาด้านการบริการและการวิเคราะห์ข้อมูล (Data management & analytics) และบริการที่ปรึกษาด้านการปฏิบัติการที่เป็นเลิศ (Operational excellence) โดยบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการให้บริการที่ปรึกษาให้กับ 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมโรงงานและรถยนต์ (Manufacturing & automobile) ธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้บริโภค ทั้งที่เป็นอาหารและเครื่องดื่ม (Consumer business food & beverage) และธุรกิจบริการทางการเงิน (Financial service)