บิ๊กค่ายรถยนต์โวย บาทแข็งกระทบส่งออก

05 ส.ค. 2562 | 05:30 น.

2 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น โอดค่าเงินบาทแข็งกระทบกำไรบริษัท “โตโยต้า”รับส่งออกปีนี้ลดลงเหลือ 2.7 แสนคัน ขณะประธานใหญ่ “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” วอนรัฐบาลลงมาดูแลเพราะเดือดร้อนทั้งอุตสาหกรรม ชี้อัตราที่เหมาะสมควรอ่อนค่าลงมา 10%

สถานการณ์เงินบาทแข็งค่ากระทบรายได้ภาคส่งออกของไทยถ้วนหน้า หลังจากช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาปรับตัวอยู่ที่ 30.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หรือแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี และยังคงผันผวนอยู่ในปัจจุบัน ล่าสุดกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์นำโดย 2 แม่ทัพใหญ่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และโตโยต้า ที่มียอดส่งออกรถยนต์รวมกันเกิน 6 แสนคันต่อปี ต่างยอมรับว่าสถานการณ์นี้มีผลโดยตรงต่อกำไร-ขาดทุนของบริษัท

นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานคณะกรรมการ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น บริษัทมีความกังวลเรื่องเงินบาทที่แข็งค่ามาก เพราะกระทบกับผลกำไรหรือขาดทุนของบริษัท เนื่องจากการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยกว่า 4 ล้านคันต่อปี 80% เป็นการส่งออก

“ถ้ามีโอกาสได้เข้าไปคุยกับรัฐบาล มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อยากให้ช่วยดูแลค่าเงินบาท หรือถ้าเป็นไปได้อยากให้ค่าเงินบาทอ่อนลงกว่าอัตราปัจจุบันประมาณ 10% ซึ่งเป็นการสะท้อนจากภาคอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกทั้งระบบ ไม่ใช่ความต้องการของมิตซูบิชิเพียงรายเดียว”

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เพิ่งฉลองการส่งออกรถยนต์ครบ 4 ล้านคันไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยรถคันที่ 4 ล้านคือ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ที่เตรียมส่งออกไปยังทวีปยุโรป

ในปี 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ผลิตรถยนต์ทุกรุ่นรวม 4.4 แสนคัน (รวมรถยนต์ ชิ้นส่วนประกอบหรือ KD) โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นยอดรถยนต์ที่ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศจำนวน 3.47 แสนคัน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มต้นการดำเนินงานในประเทศไทยในปี 2504 และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส วางรากฐานให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นในปี 2531 โดยเริ่มส่งออก มิตซูบิชิ แลนเซอร์ แชมป์ ไปยังประเทศแคนาดา เป็นครั้งแรก ปัจจุบันส่งออกได้ครบ 4 ล้านคัน แบ่งเป็นสัดส่วนของปิกอัพ 70% ซิตี้คาร์ 22% รถอเนกประสงค์ 5% และรถยนต์ประเภทอื่นๆ 3%

ศูนย์การผลิตของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่อำเภอแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี กลายเป็นฐานการผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 7,000 คน

นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทพร้อมนำเสนอเทคโนโลยีใหม่และยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย เพื่อตอบสนองลูกค้าทั้งในประเทศไทย และอีกกว่า 120 ประเทศทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ดีจากรถยนต์คุณภาพเยี่ยม

ด้านนายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่ากระทบกับการส่งออก แต่โตโยต้ายังไม่ได้ปรับแผนหรือปรับลดการผลิต เพราะต้องทำทุกอย่างตามโกลบัลแพลนที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งตลาดส่งออกนั้นได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าจะลดลง 8% หรือคิดเป็นจำนวน 2.7 แสนคัน เนื่องจากตลาดในภูมิภาคอเมริกากลาง, อเมริกาใต้ และโอเชียเนีย มีความต้องการที่ลดลง

“เงินบาทที่แข็งค่าไม่ได้กระทบกับโตโยต้าค่ายเดียว เพราะอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ส่งออกได้รับผลเช่นเดียวกันหมด ซึ่งกำไรของเราอาจลดลงบ้าง และจากเป้าหมายการขายในประเทศรวมไปถึงการส่งออก บริษัทยังคงยึดเป้าหมายยอดผลิตที่ 5.77 แสนคัน ลดลง 2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” นายซึงาตะ กล่าว 

หน้า 15 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3493 วันที่ 4-7 สิงหาคม 2563

บิ๊กค่ายรถยนต์โวย บาทแข็งกระทบส่งออก