นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้นั่งชิลล์ริมทะเล ทอดกายบนผืนหาดทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา ดื่มด่ำภาพความงดงามของแสงทไวไลต์ ยามอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศของท้องฟ้าหลากสี สะท้อนแสงไล่ระดับสีเหลืองอมส้ม หรือแดงตัดแสงสีน้ำเงิน มันช่างอบอุ่นและโรแมนติกสุดๆ กับวิวพอยต์พระอาทิตย์ตกแบบพาโนรามา กับการได้มาเช็กอิน ณ “โรงแรมราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา พัทยา”
ด้วยความโดดเด่นของโลเกชัน นาจอมเทียน ซึ่งโรงแรมได้เข้ามาปักหมุด ยึดหัวหาดบนพื้นที่กว่า 35 ไร่มาร่วม 11 ปีแล้ว ทำให้โรงแรมมีจุดขายของความเป็นไพรเวต บีช ชายหาดของที่นี่ไม่เพียงทอดยาว แต่ยังได้ร่มเงาจากต้นปาล์มที่เรียงรายอยู่หน้าหาด ชอบมากเลยกับการนอนฟังเสียงใบปาล์มปะทะลมทะเล
นอกจากจะเห็นวิวทะเลในมุมมอง 180 องศาแล้ว ยังได้เห็นทัศนียภาพของมารีน่าที่อยู่ใกล้กัน การได้เห็นเรือยอชต์ลำหรูที่จอดเทียบท่า ก็ได้ฟินไปอีกแบบ กระซิบบอกเลยว่าใครมาเป็นคู่ ต้องฟินมากๆกับการรีเควสต์ “โรแมนติก ดินเนอร์” ริมทะเลเซอร์ไพรส์ให้กับคู่รักของคุณ
รีสอร์ตตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัย อาจจะไม่โดนใจคนชอบดีไซน์โมเดิร์น แต่สัมผัสที่ได้จากรีสอร์ตแห่งนี้ คือ ความรู้สึกจากการได้มาพักผ่อนจริงๆ สำหรับคนชอบพักผ่อนริมหาดส่วนตัว และบรรยากาศในโรงแรมที่รายล้อมไปด้วยความร่มรื่นของพันธ์ุไม้ จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะได้ยินเสียงนกร้อง ที่จะปลุกคุณตื่นด้วยรอยยิ้มในยามเช้า
ห้องพักของโรงแรมมีทั้งหมด 277 ห้อง มี 4 รูมไทร์ ให้เลือกตามสไตล์ ไล่ตั้งแต่ห้องพักแบบ “สุพีเรียร์” ซึ่งเป็นรูมไทร์ที่มีให้เลือกมากที่สุดคือ 228 ห้อง ตามมาด้วย “เดอลักซ์ รูม” โดยห้องพักใน 2 แบบนี้ มีพื้นที่ถึง 42 ตร.ม. จัดว่ามีพื้นที่ค่อนข้างมาก หากเทียบกับห้องพักที่สร้างใหม่ในยุคปัจจุบันที่ห้องขนาดเล็กสุดจะอยู่ที่ราว 28 ตร.ม. แต่ถ้ามาเป็นครอบครัว แนะนำให้พักห้อง “แฟมิลี่ สวีท” กินพื้นที่กว่า 84 ตร.ม. ซึ่งทุกห้องพักจะมีระเบียงหันหน้าเข้าหาสระว่ายนํ้า ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบายตา และที่นี่ยังมีห้องพักแบบ “พูล วิลล่า” จำนวน 5 ห้อง ที่เหมาะมากสำหรับคู่ฮันนีมูน
อีกหนึ่งไฮไลต์ของโรงแรม คือ ขนาดของสระว่ายนํ้าระบบเกลือขนาดใหญ่ ที่มีถึง 3 สระ พื้นที่รวมกว่า 1,300 ตร.ม. ซึ่งเห็นได้จากหน้าล็อบบี้ ยาวไปถึงบริเวณหน้าชายหาด เลือกได้เลยว่าชอบสระไหน หรือจะวนไปเล่นทุกสระก็ยังได้
มาที่นี่พลาดไม่ได้เลยกับการทำสปาทรีตเมนต์กับ ซิกเนเจอร์ มาสสาจ “อินดิโก้” ซึ่งเป็นการนวดนํ้ามันพร้อมไปกับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยลูกประคบที่อัดแน่นไปด้วยสมุนไพรกว่า 30 ชนิด แนะนำให้จองนวดทุกวันช่วงเวลา 12.00 น.-15.00 น. และเวลา 18.00-21.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์) เพราะทางโรงแรมมีโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 คุ้มอ่ะ หลังเช็กเอาต์วันอาทิตย์ก็จองเวลานวดรอไว้ก่อนได้เลย
ใครชอบออกกำลังกาย ภายใน “ฟิตเนส” มีโปรแกรมสอนออกกำลังกายรวมถึงโยคะ ให้เราร่วมกิจกรรมได้ฟรีอีกด้วย
แหล่งไดนิ่งภายในโรงแรม มี 2 ห้องอาหารหลักให้เลือกซึ่งให้บริการตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น “ห้องอาหาร The Reef Mediterranean” ซึ่งทุกคนต้องทานมื้อเช้าที่นี่ อาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์มีมากมายให้เลือกทาน เมนูเด็ดสุด “ปาท่องโก๋” ยิ่งได้จิ้มนมด้วย อร่อยสุดๆ ตักอยู่หลายรอบจนลืมกลัวอ้วนไปเลย แต่ถ้าอยากนั่งทานอาหารรับลมทะเล ต้องเป็น “ห้องอาหาร Reva Beach” ที่ในทุกวันเสาร์ จะมีดินเนอร์บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดไว้บริการ ปิดท้ายบรรยากาศวันพักผ่อนในแบบธรรมดาที่อบอวลไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง
ปักหมุดเช็คอินโดย: ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,493 วันที่ 4 - 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562