ออกกองตราสารหนี้ หนีเก็บภาษีมีผล 20 ส.ค.

01 ส.ค. 2562 | 00:10 น.

บลจ.กสิกรไทยฯเร่งขาย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ก่อนถูกเก็บภาษีี้ 20 ..นี้ ด้าน BCAP มั่นใจไม่กระทบ AUM ชี้แม้ได้ผลตอบแทนลดลง แต่เสี่ยงน้อยกว่าซื้อหุ้น

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยฯ เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน HG (KFF6MHG) ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.50% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี GR (KFF1YGR) ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.65% ต่อปี โดยเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม-5 สิงหาคม 2562

เบื้องต้นคาดว่าทั้ง 2 กองทุน มีนโยบายเข้าไปลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank, เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Agricultural Bank of China, บัตรเงินฝาก China Merchants Bank และบัตรเงินฝาก Bank of Communications, ประเทศจีน รวมถึงเงินฝาก Commercial Bank of Qatar และเงินฝาก AI Khalij Commercial Bank, ประเทศกาตาร์ นอกจากนี้ยังมีเงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia, ประเทศอินโดนีเซีย โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

ทั้งนี้ กองทุนจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้ในอัตรา 15% เนื่องจากกองทุนได้เปิดเสนอขายก่อนที่กฎหมายจัดเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งเหลือเวลาเพียงอีกไม่ถึง 1 เดือน กองทุนก็จะถูกเก็บภาษีแล้ว

ออกกองตราสารหนี้  หนีเก็บภาษีมีผล 20 ส.ค.

นาวิน  อินทรสมบัติ

“ภาวะตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบ แทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้น 5 bps มาอยู่ที่ระดับ 1.87% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 4 bps มาอยู่ที่ระดับ 2.08% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ดูมีแนวโน้มคืบหน้ามากขึ้น แต่ยังไม่สามารถหาข้อตกลงในประเด็นขัดแย้งหลักเรื่องเทคโนโลยีกันได้ ด้านเศรษฐกิจจีนยังคงชะลอตัวภายใต้กรอบของรัฐบาลที่มุ่งรักษาเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามผลการเจรจาทางการค้า โดยเฉพาะประเด็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ยังดูตกลงกันได้ยาก รวมถึง Brexit ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะ Hard Brexit ซึ่งปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้สนับสนุนให้ธนาคารกลางของประเทศแกนหลักเริ่มส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นในการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมนายนาวิน กล่าว

นายธนาวุฒิ พรโรจนางกูร รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสายงานบริหารการลงทุน บลจ.บางกอกแคปปิตอล จก. (BCAP) กล่าวว่า ขณะนี้มีบลจ.หลายแห่งได้ทยอยออกกองทุนรวมตราสารหนี้เพิ่มขึ้น ก่อนที่จะมีการเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้เริ่มวันที่ 20 สิงหาคมนี้ เนื่องจากไม่มีผลบังคับใช้ย้อนหลัง ทำให้ต้องเร่งออกก่อน ทั้งนี้มองว่าไม่มีผลกระทบกับสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เพราะนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในการลงทุนในกองทุนรวม ถึงแม้การลงทุนในตราสารหนี้จะถูกเก็บภาษี ได้ผลตอบแทนลดลง แต่มีความเสี่ยงน้อยกว่านำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น

สำหรับกองทุนตราสารหนี้ จะเริ่มเก็บภาษีหัก ที่จ่าย ในวันที่ 20 สิงหาคม 2562 เพื่อให้เท่าเทียมการลงทุนในตราสารหนี้โดยตรง โดยกองทุนตราสารหนี้จะถูกเก็บภาษีหัก ที่จ่าย 15% เท่ากันเมื่อมีการจ่ายดอกเบี้ยเข้ากองทุน จากเดิมกองทุนตราสารหนี้เก็บภาษีหัก ที่จ่าย 10% อยู่แล้วเวลาได้รับปันผล ทั้งนี้ ถึงแม้ผลตอบแทนจะน้อยลงแต่ก็ยังเป็นการลงทุนระยะสั้นและกลางที่น่าสนใจ เพราะมีสภาพคล่องที่ดีกว่าการลงทุนตราสารหนี้และเงินฝากประจำ

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3492 วันที่ 1-3 สิงหาคม 2562

ออกกองตราสารหนี้  หนีเก็บภาษีมีผล 20 ส.ค.