70 ปี“ทักษิณ”ตอบมือวางอยู่ตลอดบนหน้าขาตัวเอง

26 ก.ค. 2562 | 10:40 น.

70 ปี“ทักษิณ”ตอบมือวางอยู่ตลอดบนหน้าขาตัวเอง

วันนี้ (26 กรกฎาคม) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้โฟนอินผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ของ จอม เพชรประดับ “Jom Petchpradab” สื่อสารมวลชนอิสระ ที่ นครลอสแองเจอลิส สหรัฐอเมริกา เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด 70 ปี จากนครลอสแองเจอลิส สหรัฐอเมริกา

ภายในงานมีแขกร่วมยินดี เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งจัดโดยกลุ่มคนไทยผู้รักประชาธิปไตยใน แอล เอ สหรัฐอเมริกา โดยนายทักษิณ กล่าวว่า 13 ปีแล้วที่ออกนอกประเทศ วันนี้ครบ 70 ปี ดูเลข 70 แล้วน่าใจหาย แต่เมื่อดูสุขภาพแล้วทำให้อายุเป็นเพียงตัวเลข

สำคัญที่สุด คือ สุขภาพ สุขภาพดี เงินซื้อไม่ได้ ต้องหาเอาเอง สุขภาพจิตอย่างตนต้องมองทั้ง 2 ด้าน ฝั่งหนึ่งเล่นงานแบบไม่มีหลักเกณฑ์ว่า กันไปแบบเรื่อยเปื่อยและอีกฝั่งก็ให้กำลังใจตลอดเวลา ต้องนำสิ่งที่เป็นบวกมาเป็นกำลังใจให้เรา ต้องรับรู้ทั้งทุกข์และสุข แต่อย่าให้ทุกข์มาข่มเราจนไม่สามารถมีความสุขได้ ต้องอยู่ให้เป็น อยู่ให้มีคุณค่า

ผมก็เตือนตัวเอง สอนตัวเองตลอดเวลา วันนี้ 70 ก็คือว่า ผมยังแข็งแรงดี มีจิตใจที่เข้มแข็ง คิดถึงพี่น้อง คิดถึงพลังแบบนี้ ทุกวันนี้ผมคิดอย่างเดียวว่า เป็นหนี้ประชาชน เพราะประชาชนรักและห่วงใย ส่วนพรรคเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็จะชนะตลอด ถึงแม้จะถูกโกง ยังถือว่า ทำได้ดีมาก แต้มสูงสุดแล้ว กำลังใจเหล่านี้ทำให้ผมอยู่ได้นายทักษิณกล่าว

เมื่อถามว่าตอนนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ไหน นายทักษิณตอบว่า อยู่ด้วยกันแต่คนละบ้าน เดี๋ยวก็มาเจอกัน

ส่วนประเด็นเรื่องข่าวลือที่จะวางมือทางการเมือง นายทักษิณ กล่าวว่า มือก็วางอยู่ตลอด นั่งก็ต้องวางบนหน้าขาตัวเอง ซึ่งตนไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก ได้แต่ให้กำลังใจคน สนับสนุนคน เพราะว่า ทุกวันนี้ ตนอยู่เมืองนอก10กว่าปีก็ต้องทำมาหากิน

ส่วนการเมืองประเทศมีคนทำหน้าที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ก็เป็นหัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานยุทธศาสตร์ในการบริหารพรรคอยู่ ตนก็คงไม่ต้องไปกังวล ถือว่า พรรคไปด้วยดี ประชาชนก็เข้าใจพรรคนี้เป็นสายเลือด เป็นดีเอ็นเอที่ก่อตั้งตั้งแต่พรรคไทยรักไทยเป็นต้นมา คนที่ไปอยู่ที่อื่นประชาชนก็ไม่ได้มองว่า เป็นไทยรักไทย เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็แพ้ เที่ยวนี้ใช้กำลังภายในทุกรูปแบบก็ได้เท่านี้ พรรคที่เป็นดีเอ็นเอของเราก็ยังแข็งแรงอยู่ดี ประชาชนยังสนับสนุนเพราะพรรคยึดดีเอ็นเอเดิม คือ การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทำเพื่อประชาชนเป็นหลัก และยังรักษาระบอบประชาธิปไตยเพื่อให้สิทธิเสรีภาพประชาชนอย่างทั่วถึง แม้จะถูกกลั่นแกล้งเอาเปรียบ ซึ่งตนไม่เคยเห็นทหารยุคใดที่ขาดความเป็นลูกผู้ชายเหมือนยุคนี้ ชนะแบบให้ประชาชนเลือกมันเท่กว่า ชนะแบบให้กรรมการช่วยมันไม่เท่

เมื่อถามว่าจะยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองไทยต่อไปหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนเป็นคนไทย เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยประชาชนอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น การแสดงความคิดเห็นเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์จะให้ลืมประชาชนไปเลยก็เหมือนขาดความรับผิดชอบ

วันนี้ต้องแยกเป็น 3 ส่วน ประเทศ คือ สูงสุด ต่อมา คือ ประชาชน และ รีจีม” (Regime) ตัวแทนที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารดูแลประเทศ และประชาชน แต่รีจีมที่เข้ามาในระยะหลังส่วนใหญ่ด้วยการปฏิวัติ มักใช้ทรัพยากรของประเทศทำเพื่อตัวเองเป็นส่วนใหญ่ทำเพื่อรักษาเสถียรภาพให้ตัวเอง ไม่ใช่รักษาเสถียรภาพให้ประเทศ ประชาชน คือ ความเสียหายบางครั้งผู้มีอำนาจไปปกป้องตัวเอง และเวลาคนวิจารณ์ก็หาว่า ไม่รักชาติ เขารักชาติมากกว่า แต่เขาไม่รักรีจีม เพราะรีจีมไม่ดี เมื่อถามว่า มีโอกาสจะได้กลับเมืองไทยหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ

สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมถามถึงกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย โฟนอินเข้ามาอวยพรวันเกิดนายทักษิณ พร้อมระบุว่า จะกล่าวอภิปราย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นของขวัญวันเกิด ขอถามว่านายสุทินเลือกเชือดถูกคนหรือไม่

โดยนายทักษิณ กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงตอนนี้ คือ การบิดเบี้ยวของกฎหมาย เมื่อเริ่มต้นออกกฎหมายที่รังแก และขั้นที่ 2 ใช้กฎหมายก็รังแก เริ่มที่การตีความหน้าด้านๆ วันนี้ตนกลัวที่สุด คือ ความหน้าด้าน ความเก่งตนไม่เคยกลัวใคร สำคัญ คือ หน้าเราไม่ด้านเท่าเขา ฉะนั้น วันนี้การใช้กฎหมายแบบหน้าด้านไม่มีทางทำให้ประเทศสันติได้

วันนี้เราอยากได้ผู้เล่นที่ยึดถือกติกา อยากได้กติกาต้องเป็นกลางเพื่อเราเล่นกันอย่างมีความสุข อยากได้กรรมการที่มีจรรยาบรรณวิชาชีพ ซึ่งตนคิดว่า ถึงเวลาที่บ้านเมืองต้องมีกติกาที่เป็นกลาง อย่างเอาคนตะแบง หน้าด้านมาตีความกฎหมาย เพราะคำว่า “Rule Of Law” ไม่ได้หมายความว่า สันติอย่างเดียว แต่หมายถึงเศรษฐกิจด้วย ถ้าที่ไหนไม่มีหลักนิติธรรมที่ดีเศรษฐกิจเจ๊งหมด ไม่มีคนเชื่อถือ ไม่มีใครมาลงทุน

ถ้าหากประเทศไทยยังปล่อยให้ทำกันอย่างนี้ สุดท้าย ก็คือ ความยากจน และความขัดแย้งของประชาชน ฝากผู้มีอำนจทั้งหลายไม่รักประชาชนอยู่ยาก นายทักษิณ ยังกล่าวด้วยว่า ได้ข่าวว่าจะให้คนจนเสียภาษี

เมื่อถามถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาล ในการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน พอใจแค่ไหน นายทักษิณตอบกลับว่า จะเป็นประชาธิปไตยหรือจะเป็นเผด็จการ ก่อนที่ตนจะตั้งพรรคไทยรักไทย เคยวิเคราะห์การเมืองบอกว่า การเมืองบางค่ายชัดเจนเลยว่า ให้รู้ว่า ข้าคือเปรต จะหาเงินอย่างเดียว บางค่ายก็บอกว่า จะเป็นเทวดาอย่างเดียว บางคนฉลาดกว่าแต่ไม่ถูกต้อง ทำตัวหน้าเป็นเทวดา แต่ทำตัวเป็นเปรต ถึงเวลาที่เราต้องเป็นมนุษย์ที่แข็งแรง มีสิ่งที่สะอาดอยู่ในตัวมากกว่า สิ่งที่สกปรก แต่สิ่งสกปรกไม่มีทางกำจัดได้หมด ร่างกายมนุษย์ถ้าเอาสิ่งสกปรกออก 18 %ก็ตายเร็วเพราะไม่มีภูมิคุ้มกัน

ดังอย่างพูดว่า ประชาธิไตยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแต่ประชาธิปไตยทำให้เราสามารถได้เรียนรู้ความหลากหลาย ความคิดต่างๆของมนุษย์ ประชาธิปไตยถึงบอกให้คนพูดให้คนแสดงออกมันเป็นประโยชน์ ถ้าฝ่ายค้านแนะนำไม่ดีก็ไม่ต้องเชื่อ ที่ดีก็ควรฟัง รัฐบาลต้องใจกว้าง ฝ่ายค้านก็เช่นเดียวกัน ยิ่งอยู่ในฐานะสำคัญที่เป็นการบริหารประเทศ ต้องใจกว้างที่จะฟัง ตนจะรับฟังประชาชน ลงไปฟังถึงพื้นที่ ไม่ได้ยินก็ไม่รู้ ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง

เมื่อถามว่า ช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาฝ่ายประชาธิปไตยสู้กับเผด็จการซึ่งฝ่ายประชาธิปไตยรู้สึกว่า แพ้ตลอด มีอะไรแนะนำหรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า ตนที่ต้องมาอยู่ต่างประเทศก็เพราะความซื่อบื้อที่ไม่เข้าใจการเมืองของ elite ในกรุงเทพ และถึงวันนี้ความเข้าใจถึงจะดีแล้วแต่ต้องยอมรับว่า กลยุทธ์ก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ใครจะไปคิดว่า ประยุทธ์จะอยู่ถึง5ปี แต่ใครจะไปคิดว่า 5ปียังถอนรากถอนโคนความเป็นประชาธิปไตยจากใจประชาชนไม่ได้ ตนเชื่อว่า ประชาชนมีตัวตายตัวแทน เจเนอเรชั่นหนึ่งหมด เจเนอเรชั่นใหม่ขึ้นมา เจเนอเรชั่นหลังๆจะใฝ่ประชาธิปไตย ใฝ่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น แต่การเมืองในกรุงเทพพยายามบีบคั้นลดเสรีภาพ

นายทักษิณ ย้ำว่า ตนยังเป็นคนไทยถึงแม้จะโดนยึดพาสปอร์ตก็ตาม ตนยังมีหัวใจเป็นคนไทย ยังคิดตลอดเวลาว่า ยังทำต้องทำหน้าที่ช่วยประเทศไทยและคนไทย แต่ผมไม่ได้ปกป้องรีจีมที่ไม่ดี ถ้ารีจีมดีแน่นอนต้องช่วย บางทีไม่ดีไม่พอ ไม่เก่งด้วย ของเราอยู่ๆจับหัวหน้ายามเป็น CEO มันก็ได้แค่นี้

เมื่อถามว่า วันเกิดปีนี้อยากได้อะไร นายทักษิณ ตอบว่า อยากให้ประเทศไทยมีความสามัคคีกันและอยากได้รัฐบาลที่ไม่กดขี่อารมณ์ความรู้สึกจิตใจของประชาชน ให้เสรีภาพประชาชนและพลังของประชาชนจะฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วกว่าที่รัฐบาลบอกว่า ซ้ายหันขวาหันเพราะประชาชนไม่ใช่ทหาร อยากเห็นประชาชนไทยมีคนสุขทำมาหากินได้อย่างมีเสรีภาพ

สุดท้ายได้ฝากข้อความไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ โดยระบุว่า หวังว่า ท่านประยุทธ์คงจะเปลี่ยนสไตล์ได้และให้จำไว้นะ สูตรเศรษฐกิจที่ตนเคยใช้ตอนสมัยไทยรักไทยเอามาใช้อีกที มันใช้ไม่ได้หรอกครับ มันเหมือนยารักษาโรค ใช้ยาเม็ดเดิมรักษาไม่หาย ถ้าอยากได้ยาเม็ดใหม่ถามตนได้ ตนยินดี และไม่เคยห่วงวิชาเลย แต่ว่า มาเที่ยวด่ากันไม่ได้ประโยชน์ หันหน้าเข้ากัน พร้อมยินดีถ้ารองนายกสมคิดจะโทรฯมาปรึกษา