เอ็นไอเอ ตั้งเป้าดันดัชนีนวัตกรรมไทยติดท็อป 30

25 ก.ค. 2562 | 12:29 น.

เอ็นไอเอเผยข่าวดี ผลดัชนีความสามารถด้านนวัตกรรมของไทยขยับขึ้นต่อเนื่อง ติดอันดับ 4 กลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับบน พร้อมตั้งเป้าดันไทยติดท็อป 30 ในปี 2030

ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า ในปี 2019 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความสามารถด้านนวัตกรรมอยู่อันดับที่ 43 ขยับอันดับขึ้น 1 อันดับ จากปี 2018 โดยในปีนี้ประเทศไทยมีการปรับตัวดีขึ้นทั้งทางด้านปัจจัยเข้าทางนวัตกรรม (Innovation input sub-index) จากเดิมอันดับที่ 52 เลื่อนขึ้นเป็นอันดับที่ 47 และปัจจัยย่อยผลผลิตทางนวัตกรรม (Innovation output sub-index) ที่ปรับขึ้นจากอันดับที่ 45 เลื่อนขึ้นเป็นอันดับที่ 43 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางระดับบน (upper middle-income economies) ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 4 รองจากจีน มาเลเซีย และบัลแกเรีย จากจำนวน 34 ประเทศ ที่ประเทศไทยมีอันดับที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยในทุกปัจจัย ยกเว้นปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่หากเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 10 จากจำนวน 15 ประเทศ

เอ็นไอเอ ตั้งเป้าดันดัชนีนวัตกรรมไทยติดท็อป 30

สำหรับคะแนนในปีนี้ ประเทศไทยทำคะแนนได้ดีในหลายตัวชี้วัดจาก 5 ปัจจัยเสาหลัก อาทิ ประสิทธิการดำเนินดีในด้านเครดิตภายในประเทศที่มีต่อภาคเอกชน (อันดับ 12) การคุ้มครองผู้ลงทุน (อันดับ 14) การลงทุนในตลาด (อันดับ 10) การทำ R&D ที่มีแหล่งเงินจากภาคธุรกิจ (อันดับ 4) การนำเข้าสินค้าไฮเทค (อันดับ 12) สภาพแวดล้อมนการทำธุรกิจ (อันดับ 20) การเติบโตด้านผลิตภาพแรงงาน (อันดับ 14) และการส่งออกสินค้าเทคโนโลยี (อันดับ 8) รวมถึงตัวชี้วัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านผลผลิตจากองค์ความรู้และเทคโนโลยี และปัจจัยด้านผลผลิตจากความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่ตัวชี้วัดที่ประเทศไทยยังมีข้อด้อยส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างปัจจัยเข้าทางนวัตกรรม เช่น สภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ อัตราส่วนของครูและนักเรียน และการกู้ยืมรายย่อยในระดับไมโครไฟแนนซ์ เป็นต้น

เอ็นไอเอ ตั้งเป้าดันดัชนีนวัตกรรมไทยติดท็อป 30

ด้าน ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ระบุว่า ดัชนี GII ประกอบด้วย ดัชนีย่อย 2 ด้าน ได้แก่ ดัชนีย่อยปัจจัยเข้าทางนวัตกรรม (Innovation input sub-index) และ ดัชนีย่อยผลผลิตทางนวัตกรรม (Innovation output sub-index) โดยภายใต้ 2 ดัชนีย่อยนี้ ได้แบ่งองค์ประกอบออกเป็น 7 ปัจจัยเสาหลัก (Pillar) ได้แก่ 1. ด้านสถาบัน 2. ด้านทุนมนุษย์และการวิจัย 3. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน 4. ด้านระบบตลาด 5. ด้านระบบธุรกิจ 6. ผลผลิตจากองค์ความรู้และเทคโนโลยี และ 7. ผลผลิตจากความคิดสร้างสรรค์ 

เอ็นไอเอ ตั้งเป้าดันดัชนีนวัตกรรมไทยติดท็อป 30

GII ถือเป็นอีกหนึ่งดัชนีสำคัญด้านนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ซึ่งสะท้อนความสามารถด้านนวัตกรรมของประเทศทั้งในปัจจัยย่อย การเปรียบเทียบเชิงเวลา และการเปรียบเทียบเชิงแข่งขัน

เอ็นไอเอ ตั้งเป้าดันดัชนีนวัตกรรมไทยติดท็อป 30

NIA ในฐานะหน่วยงานนำในการขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมของประเทศ ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ให้ดำเนินการติดตามและเสนอแนะแนวทางการยกระดับและปรับปรุงอันดับของประเทศไทยในดัชนีนวัตกรรมระดับโลก โดยอาศัยการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมบนฐานของข้อมูล (Data-driven Innovation) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการจัดทำแพลทฟอร์มข้อมูลนวัตกรรม เพื่อติดตามข้อมูลปัจจัยด้านนวัตกรรมจากแหล่างต่างๆ ที่สะท้อนศักยภาพด้านนวัตกรรม อาทิ ข้อมูลผลงานนวัตกรรม ข้อมูลผู้ประกอบการนวัตกรรม ข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรม ที่จะนำไปสู่การส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ข้อมูลในการสร้างและพัฒนาความเข้มแข็งของระบบนวัตกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของ NIA ในการขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมของประเทศ สำหรับผลการจัดอันดับในปีนี้ ถึงแม้ในปีนี้อันดับของประเทศไทยจะขึ้นเพียง 1 อันดับ แต่จะเห็นได้ว่ามีการปรับขึ้นทั้งในอันดับของปัจจัยเข้าทางนวัตกรรม และปัจจัยผลผลิตทางนวัตกรรม แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ต่อเนื่องและสมดุลมากขึ้น 

เอ็นไอเอ ตั้งเป้าดันดัชนีนวัตกรรมไทยติดท็อป 30

การปรับโครงสร้างเชิงระบบของระบบวิจัย วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมของประเทศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จะช่วยเชื่อมโยงปัจจัยเข้าและปัจจัยผลผลิตให้สมดุลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับการทำงานร่วมกันที่ส่งผลต่ออันดับนวัตกรรมของประเทศไทย ทั้งนี้ NIA จะได้มีการดำเนินงานเพื่อวางแผนในการเร่งพัฒนาและปรับปรุงดัชนีนวัตกรรมของประเทศให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยอยู่ในท็อป 30 ภายในปี 2030

เอ็นไอเอ ตั้งเป้าดันดัชนีนวัตกรรมไทยติดท็อป 30

สำหรับประเทศที่มีความสามารถและการพัฒนานวัตกรรมที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกในปีนี้ ได้แก่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศสวีเดน  ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเนเธอร์แลนด์  สหราชอาณาจักร  ประเทศฟินแลนด์  ประเทศเดนมาร์ก ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเยอรมนี และประเทศอิสราเอล โดยดัชนีนวัตกรรมระดับโลก หรือ GII จัดทำขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ภายใต้แนวคิด นวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ (Creating Healthy Lives - The Future of Medical Innovation) ทำการสำรวจโดยองค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก หรือ WIPO ซึ่่งเป็นหนึ่งในองค์การเฉพาะทางของสหประชาชาติ ทั้งนี้ ได้ทำการสำรวจความสามารถด้านนวัตกรรม 129 ประเทศและเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วโลก

เอ็นไอเอ ตั้งเป้าดันดัชนีนวัตกรรมไทยติดท็อป 30