นิวเจนฯ เห่อเลี้ยงแมว ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง 1.5 หมื่นล้านพุ่ง
“โรยัล คานิน” ชี้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโตสวนกระแสเศรษฐกิจซบ คาดทั้งปีโตกว่า 5% ขณะที่พฤติกรรมคนรุ่นใหม่หันเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้น เร่งพัฒนาสินค้าและบริการรองรับ
นสพ.จดล สุวรรณฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรยัล คานิน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำผลิตและจำหน่ายอาหารสุนัขและแมว “โรยัลคานิน” (ROYALCANIN) จากประเทศฝรั่งเศสเปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดอาหารสุนัขและแมวมีมูลค่ารวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท มีผู้ผลิตและผู้นำเข้ามากกว่า 30 แบรนด์ แบ่งออกเป็น อาหารสุนัขและแมวที่จำหน่ายผ่านร้านค้าสมัยใหม่ อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ 40% มีการเติบโต 1.2% และร้านจำหน่ายเฉพาะอาหารสุนัขและแมว คลินิกสัตวแพทย์ และผู้เพาะพันธุ์ หรือ Specialty Trade Channel 60% มีการเติบโต 7.3% และคาดว่าตลาดโดยรวมในปีนี้จะมีการเติบโตกว่า 5%
นสพ.จดล สุวรรณฤทธิ์
เห็นได้จากแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้นโดยปัจจุบันพบว่ามีการเลี้ยงสุนัขและแมวมากกว่า 12 ล้านตัว แบ่งเป็นสุนัข 8 ล้านตัว และแมว 4 ล้านตัว โดยเฉพาะแมวที่พบว่าคนรุ่นใหม่นิยมเลี้ยงแมวในคอนโดมิเนียมมากขึ้น เพราะเลี้ยงง่าย ไม่ซุกซน ไม่ส่งเสียงรบกวน ทำให้ผู้ประกอบการมีการพัฒนาสินค้าและบริการสำหรับแมวเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดโรยัล คานิน ร่วมกับชมรมผู้นิยมแมวแห่งประเทศไทย (CFCT Club) จัดงาน 19th Thailand Cat Show 2019 ขึ้นภายใต้แนวคิด “Take Your Pet to the Vet” เพื่อให้ความรู้แก่เจ้าของเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพก่อนป่วยและโภชนาการที่ดี รวมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การประกวดแมว การหาบ้านใหม่ให้แมว ปันนํ้าใจให้แมวจร ฯลฯ และจำหน่ายอาหารแมวในราคาพิเศษ
นอกจากนี้ บริษัทได้พัฒนาแอพพลิเคชัน “Royal Canin Club” ซึ่งจะช่วยทำให้เจ้าของแมวดูแลพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความรู้ที่ตรงกับแมว ตามช่วงอายุ สายพันธุ์ และความต้องการที่แตกต่างกัน จากนักโภชนาการและสัตวแพทย์ ผู้รู้จริงเรื่องสุขภาพและโภชนาการของแมว ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนเป็นครอบครัว โรยัล คานิน ได้ด้วย
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายราว 2,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนที่มียอดขาย 1,800 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากการทำกิจกรรมทางการตลาด การขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านออนไลน์และออฟไลน์ จากเดิมที่มีการจำหน่ายผ่านร้านอาหารและผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง 70% คลินิกสัตวแพทย์ 25% ผู้เพาะพันธุ์ 3% และอี-คอมเมิร์ซ 2%
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3491 วันที่ 28-31 กรกฎาคม 2562
