ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 กรกฏาคม ) ปิดที่ 27,269.97 จุด ลดลง 79.22 จุด หรือ -0.29% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,019.56 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,321.50 จุด เพิ่มขึ้น 70.10 จุด หรือ +0.85%
นักลงทุนผิดหวังผลประกอบการบริษัทยักษ์ใหญ่ บริษัทโบอิ้งหลังรายงานไตรมาส 2/2562 ขาดทุน 5.82 ดอลลาร์ต่อหุ้น สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะมีกำไร 1.87 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากสาเหตุที่เครื่องบิน 737 MAX ของบริษัทยังคงถูกสั่งห้ามบิน รายงานดังกล่าวฉุดราคาหุ้นโบอิ้งปิดตลาดร่วงลง 3.12% ขณะที่หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ บริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปิดตลาดดิ่งลง 4.48% หลังบริษัทเผยกำไรไตรมาส 2 ที่ระดับ 2.83 ดอลลาร์ต่อหุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.12 ดอลลาร์ต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดดีดตัวยืนระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แรงหนุนของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพ หลังบริษัทเท็กซัส อินสตรูเมนท์ รายงานกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.36 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ทะยานขึ้น 7.4% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 2.26% หุ้นสกายเวิร์คส์ โซลูชั่น พุ่งขึ้น 2.14% ส่วนหุ้นเฟซบุ๊ก ดีดตัวขึ้น 1.14% หลังจากบริษัทยินยอมจ่ายค่าปรับจำนวน 5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.55 แสนล้านบาท เพื่อยุติการสอบสวนกรณีที่เฟซบุ๊กปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานรั่วไหล
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 30-31 กรกฏาคม และการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนที่นครเซี่ยงไฮ้ที่กำหนดขึ้นในปลายเดือนนี้เช่นกัน