บรรดาวาณิชธนกิจ คาด‘เฟด’จ่อลดดอกเบี้ย 0.25% แต่มีลุ้นอัดยาแรงลด0.50%ในเดือนก.ค.
ครบเครื่องเรื่องทองกับ YLG
พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ราคาทองคำเคลื่อน ไหวไปตามกระแสการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอก เบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ตลาดกำลังถกเถียงกันนั้น ไม่ใช่คำถามที่ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคมหรือไม่ แต่เป็นคำถามที่ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคมมากน้อยแค่ไหนต่างหาก ซึ่งดูเหมือนว่า ผู้คนในแวดวงการเงิน ตั้งแต่นักลงทุน เทรดเดอร์ไปจนถึงวาณิชธนกิจต่างๆ จะมีความเห็นที่แตกต่างกันใน เรื่องดังกล่าว วันนี้ YLG จึงได้รวมเอาการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด เพื่อให้นักลงทุนทุกท่านใช้ประเมินสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เริ่มต้นที่ธนาคารและวาณิชธนกิจชื่อดังกันก่อน ทั้งนี้ Bloomberg ได้รวมเอาความเห็นของ 7 ธนาคาร ประกอบกับไปด้วย Goldman Sachs Group Inc., JPMorgan Chase & Co., Morgan Stanley, Citigroup Inc., Bank of America Corp., Barclays Plc และ UBS Group AG เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในรอบทศวรรษ โดยหยิบยกมาจากบทวิเคราะห์ล่าสุดของธนาคารเหล่านั้น สรุปได้ว่าทั้ง 7 ธนาคารคาดการณ์ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้ โดย 2 ธนาคารในจำนวน 7 ธนาคาร ได้แก่ Morgan Stanley และ UBS Group AG คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยถึง 50 basis point ในการประชุมเดือนกรกฎาคมส่วนอีก 5 ธนาคารที่เหลือมองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 25 basis point
สำหรับการคาดการณ์ในตลาด เราดู FedWatch ของ CME Group ที่วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯเป็นตัวชี้วัดหลัก ซึ่งในปัจจุบันบ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยใน 100% นั้นถูกแบ่งเป็นคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 25 basis point ในเดือนกรกฎาคมราว 53.8% ขณะที่อีก 46.2% คาดว่าจะลดดอกเบี้ยมากถึง 50 basis point ในเดือนกรกฎาคม แต่ต้องยอมรับความเป็นไปได้นั้นผันผวนค่อนข้างมาก ในบางช่วงนั้น ความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 50 basis point ในเดือนกรกฎาคมพุ่งสูงไปถึง 70% เลยทีเดียว โดยในครั้งนั้นการคาดการณ์ของตลาดถูกหนุนโดยความเห็นของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ที่ระบุในการประชุมประจำปีของ Central Bank Research Association ว่า เฟดควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว และเน้นยํ้าว่า การใช้มาตรการป้องกันเอาไว้ก่อนที่จะเกิดหายนะนั้น ถือเป็นแนวทางที่ดีกว่า ซึ่งนั่นหนุนทองคำให้พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีบริเวณ 1,453 ดอลลาร์ต่อออนซ์กันเลยทีเดียว ก่อนที่การคาดการณ์ของตลาดจะลดลงเหลือเพียง 22% เท่านั้นหลังจากวอลล์สตรีต เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าเฟดหลายรายบ่งชี้ว่า พวกเขาพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมนโยบายในวันที่ 30-31 กรกฎาคมนี้ แต่พวกเขาไม่ได้เตรียมที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 0.5% และนั่นทำให้ทองคำร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันทำการถัดมา
จากอดีตที่ผ่านมา เฟดมีแนวโน้มจะดำเนินการสอดคล้องไปกับการคาดการณ์ของตลาด ดังนั้นเราจึงต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในเฟดอย่างใกล้ชิด ยิ่งตลาดคาดการณ์ถึงการปรับลดดอกเบี้ยครั้งใหม่(Large cut) มากขึ้นเท่าไหร่ ทองคำก็มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นมากขึ้นเท่านั้น ในทางกลับกันหากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีเกินคาดจนทำให้ตลาดมองว่าเฟดยังไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรงมากขนาดนั้น อาจส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงเช่นกัน Stay tuned…
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3490 วันที่ 25-27 กรกฎาคม 2562
