ดีลิเวอรีมาแรงเชนดังกาแฟเกาะกระแสเสิร์ฟคนรุ่นใหม่

27 ก.ค. 2562 | 02:00 น.

เชนร้านกาแฟชิงเสิร์ฟดีลิเวอรี ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวก สบาย รวดเร็ว จับตา “อโรม่า-อินทนิล-ดีน” ซุ่มจับมือพันธมิตรชิมลางให้บริการ เล็งต่อยอด O2O สร้างฐานลูกค้าแข็งแกร่ง ขณะที่เทรนด์ฟู้ดดีลิเวอรีคาดโตแรงทะลุ 5 หมื่นล้านในปี 2564

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าธุรกิจส่งอาหารหรือฟู้ดดีลิเวอรีมีการเติบโตต่อเนื่องเห็นได้จากในปี 2559 ที่มีมูลค่าราว 2.35 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนคาดว่าในปี 2564 จะมีมูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยกว่า 10-15% ต่อปี โดยกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มถือ จะได้รับความนิยมให้บริการรูปแบบดีลิเวอรีสูงที่สุด เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ความสะดวกสบายของคนรุ่นใหม่ได้ไม่ยาก และ “ร้านกาแฟ” คืออีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงและกลายเป็นเทรนด์สำคัญ

นายพริษฐ์ อนุกูลธนาการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ อโรม่า กรุ๊ป ผู้บริหารร้านกาแฟชาวดอย, และ 94 คอฟฟี่ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เทรนด์การให้บริการในรูปแบบดีลิเวอรีถือว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีสอดคล้องกับเทรนด์โลก โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและกำลังได้รับความนิยมไปยังกลุ่มผู้ให้บริการร้านกาแฟเพิ่มสูงขึ้นจำนวนมาก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคอกาแฟในชีวิตประจำวัน และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของผู้ให้บริการดีลิเวอรีทั้ง ไลน์แมน,แกร็บฟู้ด,เก็ทฟู้ด ฯลฯ คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้ธุรกิจบริการจัดส่งกาแฟดีลิเวอรีเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ในส่วนของ ร้านกาแฟชาวดอย และแบรนด์ 94 คอฟฟี่ นั้นเริ่มมีการจัดเตรียมแผนงานเพื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยหนึ่งในนั้นคือการบริการรูปแบบดีลิเวอรีที่มีแผนจับมือกับพาร์ตเนอร์อย่าง แกร็บฟู้ดในการจัดส่ง ซึ่งได้มีการทดลองให้บริการไปแล้วในบางส่วน โดยเตรียมเปิดตัวอย่างการให้บริการดีลิเวอรีอย่างเป็นทางการภายในปีนี้

“หากเรามองไปที่ธุรกิจร้านกาแฟในจีนขณะนี้จะเห็นร้านสตาร์บัคส์อยู่ทุกหัวมุมเมืองของจีนจำนวนมาก แต่ถ้าหากเราโฟกัสไปที่แก้วกาแฟที่ถืออยู่ในมือลูกค้ากลับเป็นกาแฟแบรนด์ luckin coffee ที่ทุกคนแทบจะถือรับประทานในชีวิตประจำวัน นั่นเพราะ luckin coffee มีระบบการบริการดีลิเวอรีที่ดีและเข้าถึง ทำให้มียอดขายที่ดีและเข้าถึงลูกค้าได้มากและรวดเร็ว ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวแน่นอนว่ากำลังเติบโตเป็นอย่างมากในบ้านเราในเรื่องของการนำรูปแบบการบริการดีลิเวอรีมาเพื่อสร้างการเข้าถึงไปยังผู้บริโภค”

ดีลิเวอรีมาแรงเชนดังกาแฟเกาะกระแสเสิร์ฟคนรุ่นใหม่

ด้านนายวิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ผู้บริหารร้านกาแฟอินทนิล กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า หลังจากบริษัทได้ร่วมกับพาร์ตเนอร์อย่าง แกร็บฟู้ด ในการให้บริการจัดส่งกาแฟ (ดีลิเวอรี) เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยนำร่องใน 10% ของร้านกาแฟอินทนิลที่มีอยู่กว่า 500 สาขาทั่วประเทศ พบว่าสามารถสร้างการเติบโตให้แก่ร้านที่เข้าร่วมได้มากกว่า 10% และปัจจุบันได้เพิ่มพาร์ตเนอร์อีกอย่าง เก็ทฟู้ด เข้ามาเสริมทัพการให้บริการในครั้งนี้ด้วย และแน่นอนว่าในอนาคตจะมีการขยายสาขาที่ให้บริการและพื้นที่การจัดส่งที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่การบริการของพาร์ตเนอร์ว่าจะสามารถจัดส่งได้ครอบคลุมมากเพียงใด ซึ่งบริษัทก็พร้อมขยายการให้บริการตามไปด้วย

 

“การเปิดให้บริการดีลิเวอรีของกลุ่มร้านกาแฟถือเป็นอีกหนึ่งการเสริมแกร่งของการตลาดแบบ O2O ซึ่งถือว่าเป็นไปตามทิศทางของตลาด ที่ร้านค้า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ต่างมองหาช่องทางที่หลากหลายในการเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบาย รวดเร็ว ของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่”

ขณะที่นายสมศักดิ์ หงษ์ศรีจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การให้บริการดีลิเวอรีในธุรกิจร้านกาแฟถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างเร่งปรับทัพและการให้บริการเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งการให้บริการดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ O2O โดยในส่วนของบริษัทสำหรับแผนการให้บริการดีลิเวอรีในไทยได้มีการนำร่องให้บริการไปแล้วบางส่วน และพบว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี จนสามารถสร้างยอดขายเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ทำให้บริษัทได้เตรียมเปิดเผยความร่วมมือทางธุรกิจกับ แกร็บ ประเทศไทย ผู้ให้บริการส่งอาหารด้วย อย่างเป็นทางการภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการบริการที่ครอบคลุมและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น เพื่อขยายธุรกิจไปสู่โมเดล ออนไลน์ เซอร์วิส อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตามการเสริมแกร่งบริการดังกล่าวจะเป็นการเดินตามแผนงานเพื่อสร้างรายได้ของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3490 ระหว่างวันที่ 25 - 27 กรกฎาคม 2562