เปิดแล้ว!“สตาร์ มาร์เก็ต” ตลาดหุ้นไฮเทคจีน เทรดวันแรกราคาพุ่งกว่า 100%

22 ก.ค. 2562 | 09:48 น.

เพื่อตอกย้ำเป้าหมายการเป็นมหาอำนาจทางด้านเทคโนโลยี วันจันทร์ที่ 22 ก.ค. 2562 เป็นวันแรกที่จีนเปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ สตาร์ มาร์เก็ต (Star Market) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ เปิดทำการเพื่อการซื้อขายหุ้นของบริษัทด้านไฮเทคและสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ โครงการนี้เป็นความริเริ่มของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เคยดำริไว้เมื่อราวๆ 9 เดือนที่ผ่านมา  

เปิดแล้ว!“สตาร์ มาร์เก็ต” ตลาดหุ้นไฮเทคจีน เทรดวันแรกราคาพุ่งกว่า 100%

ตลาดสตาร์ มาร์เก็ต มีบริษัทมาจดทะเบียนทำการซื้อขายหุ้นจำนวน 25 บริษัท ในการเปิดตลาดวันแรกเพียงครึ่งวัน หุ้นบริษัทเหล่านี้ก็มีราคาพุ่งขึ้นเฉลี่ย 160% และหุ้นของบริษัทที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากคือ หุ้นบริษัท อันจิ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี ผู้ผลิตวัสดุที่ใช้สำหรับการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ พุ่งทะยานขึ้นไปถึง 520% ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาเล็กน้อย

 

เม็ดเงินลงทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดในวันนี้เป็นวันแรก ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท ซูโจว เอชวายซี เทคโนโลยี และผู้ก่อตั้งบริษัท เจ้อเจียง หังเกอ เทคโนโลยี กลายเป็นมหาเศรษฐีระดับพันล้านคนใหม่ของจีนขึ้นมาทันที   นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาหุ้นที่พุ่งทะยานของบริษัทเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่จะได้เห็นการเปิดตัวของหุ้นใหม่ในตลาดที่โดดเด่น บวกกับการคาดหวังที่เกินเลยความเป็นจริงของบรรดานักลงทุน แต่ขณะเดียวกันก็มีการตีปี๊บประชาสัมพันธ์เชิญชวนจากภาครัฐสร้างกระแสความสนใจ “ราคาหุ้นที่พุ่งแรงในวันนี้เป็นเรื่องบ้าบอมาก แต่มันก็เป็นไปแล้ว ราคามันเกินจริงไปแล้ว ซึ่งก็คงจะเป็นอย่างนั้นได้ไม่นาน มันดูเป็นการปั่นราคามากไป” โรนัลด์ เหวิน ประธานบริหารบริษัท พาร์ทเนอร์ส แคปปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล ในฮ่องกงให้ความเห็น  

เปิดแล้ว!“สตาร์ มาร์เก็ต” ตลาดหุ้นไฮเทคจีน เทรดวันแรกราคาพุ่งกว่า 100%

แต่ในส่วนของรัฐบาลจีนนั้น เห็นได้ชัดว่าตั้งใจให้ “สตาร์ มาร์เก็ต” เป็นเครื่องมือช่วยเหลือบริษัทด้านไฮเทคของจีนเองให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินมหาศาลของนักลงทุนภายในประเทศ และใช้เป็นช่องทางในการชักจูงบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่างอาลีบาบาและเทนเซนท์  ซึ่งเป็นบริษัทไฮเทคของจีนเอง ให้กลับจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คและฮ่องกง มาระดมทุนและสร้างความสดใสคึกคักให้กับตลาดบ้านเกิดเมืองนอน 

 

รัฐบาลจีนมีนโยบายส่งเสริมให้บริษัทเอกชนของตนเองลดการพึ่งพาทั้งเงินทุนและเทคโนโลยีจากต่างประเทศ  นโยบายดังกล่าวยิ่งได้รับการเน้นย้ำอย่างมากเมื่อสหรัฐอเมริกาเปิดสงครามการค้ากับจีนและขึ้นบัญชีดำบริษัท ‘หัวเว่ย’ ยักษ์ใหญ่อุปกรณ์โทรคมนาคมของจีน (ขณะนี้ได้รับการผ่อนผันเนื่องจากสหรัฐฯและจีนเริ่มหันกลับมาเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้ากันให้ได้อีกครั้ง) ก่อนหน้านี้ในปี 2552 และ 2556 จีนเคยพยายามจัดตั้งตลาดหุ้นบริษัทไฮเทคลักษณะเดียวกันกับตลาดนาสแดคของสหรัฐอเมริกามาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากบริษัทที่มีคุณสมบัติดีเพียงพอที่จะมาจดทะเบียนในตลาดนั้นมีจำนวนไม่มากนัก ผลตอบแทนหุ้นก็มีจำกัด แต่การจัดตั้ง “สตาร์ มาร์เก็ต” ที่ตลาดเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเป็นกรณีที่แตกต่างออกไป เพราะนี่คือตลาดหลักทรัพย์ที่บุคคลระดับผู้นำประเทศ คือประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดำริจัดตั้งขึ้นมา ด้วยความหวังว่า ตลาด “สตาร์ มาร์เก็ต” จะช่วยเกื้อหนุนให้บริษัทไฮเทคของจีนสามารถผงาดขึ้นมาเป็นผู้เล่นแถวหน้าในเวทีเทคโนโลยีโลกในอนาคต  

เปิดแล้ว!“สตาร์ มาร์เก็ต” ตลาดหุ้นไฮเทคจีน เทรดวันแรกราคาพุ่งกว่า 100%

เจ้าหน้าที่กำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของจีนรายหนึ่งให้ความเห็นแบบไม่ประสงค์ออกนามว่า ตลาดสตาร์ มาร์เก็ตจะได้ต้อนรับบริษัทด้านไฮเทคที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมของจีน โดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ใน ภาคอุตสาหกรรม 6 แขนงดาวรุ่ง (Six Emerging Industries)ที่จีนกำลังให้การสนับสนุนด้านการพัฒนา  ได้แก่ ไอทียุคใหม่ โรงงานผลิตอัจฉริยะ อากาศยาน การพัฒนาวัสดุทางเลือกใหม่ พลังงานหมุนเวียน และไบโอเทค ซึ่งขณะนี้มีจำนวนกว่า 100 บริษัทที่มายื่นสมัครขอจดทะเบียนเข้าตลาดสตาร์ มาร์เก็ต  

 

ส่วน 25 บริษัทรุ่นแรกหรือรุ่นบุกเบิกที่จดทะเบียนเข้ามาซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดสตาร์ มาร์เก็ต และเปิดการซื้อขายวันแรกไปเมื่อวันที่ 22 ก.ค.นี้  24 บริษัทเป็นบริษัทที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก รายงานข่าวระบุว่า ทั้ง 25 บริษัทระดมทุนวันแรกได้มากกว่า 37,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ