กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแนะเอกชนไทยฉวยจังหวะสหรัฐอเมริกาทำสงครามการค้ากับจีนและขึ้นภาษีนำเข้ากระเบื้องเซรามิกจากสหภาพยุโรป หลังพบมีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องชี้ทางลัดเข้าร่วมงาน Coverings 2020 เปิดตัวและแนะนำสินค้าไทย
นางสาวนิธิมา ศิริโภคากิจ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี สหรัฐอเมริกา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงโอกาสการขยายตลาดสินค้ากระเบื้องปูพื้นและปูผนังในตลาดสหรัฐอเมริกา ของผู้ประกอบการไทย ว่า ปัจจุบันการผลิตในสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงพอต่อความต้องการ และต้องพึ่งพาแหล่งผลิตกระเบื้องเซรามิกจากต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตในสหรัฐอเมริกา ขาดแคลนแรงงานฝีมือ และค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น รวมถึงปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน และยังมีการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้ากระเบื้องเซรามิก จากประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) เป็น 100% ทำให้ประเทศต่างๆ เช่น อิตาลี สเปน โปรตุเกส ได้รับผลกระทบ จึงเป็นโอกาสของสินค้าจากไทยในการขยายตลาดวัสดุปูพื้นเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา ได้
สำหรับโอกาสของสินค้าไทย เช่น กระเบื้องเซรามิก , พอร์ซเลน , โมเสก , แก้ว และวัสดุพื้นไม้ เป็นต้น แต่การเข้าสู่ตลาด ต้องศึกษาแนวโน้มรสนิยมผู้บริโภคในตลาดสหรัฐอเมริกา เพราะผู้บริโภคสหรัฐอเมริกา เน้นเลือกซื้อกระเบื้องที่มีขนาดกว้าง ยาว และใหญ่กว่าขนาดปกติ ซึ่งหากพัฒนาการออกแบบและผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการ ก็จะมีโอกาสในการส่งออกได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกที่มีศักยภาพในการผลิตและจำหน่ายสินค้าวัสดุปูพื้น ปูผนัง เครื่องจักรกล และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ควรพิจารณาเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Coverings 2020 เพื่อเพิ่มลู่ทางในการเจาะตลาดสหรัฐอเมริกา และประเทศใกล้เคียง รวมทั้งจะได้รับทราบถึงแนวโน้มสินค้าในอุตสาหกรรมดังกล่าวด้วย ทั้งนี้แนวโน้มกระเบื้องปูผนังที่กำลังมาแรงในปี 2562 พบว่า มีจำนวน 7 รายการ ได้แก่ 1.NEU SURFACES ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์กระเบื้องปูผนังที่ออกแบบผิวสัมผัสและลวดลายใหม่ๆ เพื่อความสวยงาม เช่น การออกแบบลายคล้ายไม้แผ่นกระดานน้ำมันซึ่งเคลือบผิวด้วยมือ ลายหินอ่อน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนพื้นผิวโบสถ์ของคนยุโรปในสมัยก่อน ถัดไป 2.SYSTEMS เป็นการเพิ่มความหนาของกระเบื้อง โดยมีขนาดตั้งแต่ 3-10 มิลลิเมตร โดยเฉพาะแผ่นพอร์ซเลนสำหรับเคาน์เตอร์ห้องครัว โต๊ะเครื่องแป้งในห้องน้ำ โต๊ะและห้องครัวนอกบ้าน ต่อมา 3.TILE PLAY เป็นการออกแบบกระเบื้องสามมิติที่มีลักษณะเหมือนตัวต่อเลโก้ขนาดยักษ์ ไปจนถึงลายการ์ตูนยอดนิยมบนเซรามิก ลำดับต่อมา 4.LUNAR MARBLE เป็นการสร้างความแตกต่างให้กับกระเบื้องหินอ่อน โดยใช้หินอ่อนที่แตกต่างจากเหมือนหินอ่อนทั่วโลก ต่อมา 5.THE BLUES มีการนำสีน้ำเงินมาใช้ในการออกแบบกระเบื้อง ทั้งสีน้ำเงินอ่อน หรือสีน้ำเงินเข้ม และ 6.BIG PATTERNS วอลล์เปเปอร์เซรามิกขนาดใหญ่ สุดท้าย 7.TRADITION นำการออกแบบกระเบื้องในสมัยโบราณมาใช้
โดยในปี 2561 สหรัฐสหรัฐอเมริกานำเข้ากระเบื้องเซรามิกรวม 1,873 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.35% โดยอิตาลีเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุด ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 31.21% ของการนำเข้าทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา รองลงมา คือ จีน มีส่วนแบ่งตลาด 26.26% และสเปน อันดับ 3 มีส่วนแบ่งตลาด 15.41%