กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่านยอมรับว่าได้ดักสกัดและกักกันเรือ สเตนา อิมเพโร (Stena Impero) เรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติอังกฤษเอาไว้ ขณะเรือดังกล่าวกำลังเดินทางใกล้บริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการลำเลียงน้ำมันดิบของโลกจากประเทศแถบอ่าวเปอร์เซีย แต่ปฏิเสธการกักยึดเรือ เมสดาร์ (Mesdar) ซึ่งเป็นเรืออังกฤษเช่นกัน โดยสื่อท้องถิ่นของอิหร่านระบุว่า เรือเมสดาร์ได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไปได้หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนจากทางการอิหร่านเกี่ยวกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อม เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า รัฐบาลยิบบรอลตาร์ ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ ได้สั่งกักกันเรือบรรทุกน้ำมัน เกรซวัน (Grace 1) ที่กำลังลำเลียงน้ำมันดิบจากอิหร่านมุ่งหน้าสู่ซีเรีย ซึ่งถือเป็นการขัดมติของสหภาพยุโรป อียู) ที่คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรัฐบาลซีเรีย การกระทำของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติแห่งอิหร่านที่สกัดและยึดเรืออังกฤษเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (19 ก.ค.) จึงถูกมองว่าเป็นปฏิบัติการตอบโต้อังกฤษ และทำให้อุณหภูมิการเผชิญหน้าระหว่างอิหร่านและโลกตะวันตก เพิ่มความร้อนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวสูงขึ้นรับเหตุการณ์ขัดแย้งครั้งนี้
รัฐบาลอังกฤษได้แจ้งเตือนทางการอิหร่านให้ส่งคืนเรือน้ำมันทั้ง 2 ของอังกฤษ ไม่เช่นนั้นจะต้องพบกับผลพวงที่จะตามมา “การกักเรือของอังกฤษครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ เสรีภาพในการเดินเรือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำรงไว้ เรือทุกลำจะต้องสามารถเดินทางอย่างปลอดภัยและเป็นอิสระในพื้นที่ดังกล่าวนี้” นายเจอเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษกล่าว แต่ไม่ได้ขยายความว่า “ผลพวงที่จะตามมา” หากอิหร่านไม่ยอมส่งคืนเรือสัญชาติอังกฤษทั้งสองลำคืออะไร เพียงแต่กล่าวว่า อังกฤษไม่ได้พิจารณาถึงการใช้กำลังทางการทหาร
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เขาจะหารือกับอังกฤษเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งนี้สหรัฐฯเองก็อยู่ในภาวะการเผชิญหน้ากับอิหร่าน หลังจากที่ได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อปีที่ผ่านมา สหรัฐฯก็เพิ่มแรงกดดันในการคว่ำบาตรอิหร่านทางเศรษฐกิจมาโดยตลอดซึ่งรวมถึงการตัดหนทางการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเพื่อตัดท่องน้ำเลี้ยงรายได้ของประเทศอิหร่าน กระทั่งการกระทบกระทั่งล่าสุดคือการที่สหรัฐฯยิงโดรนของอิหร่านตกบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ เป็นการตอบโต้การที่อิหร่านยิงโดรนสอดแนมของสหรัฐฯหล่นทะเลก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตาม บริษัท นอร์บัล์ค เจ้าของเรือน้ำมันเมสดาร์ ได้ออกมาให้ข่าวยืนยันแล้วว่า เรือเมสดาร์ไม่ได้ถูกกักยึดไว้ และลูกเรือทุกคนก็ปลอดภัยดี
นายกาย แพล็ตเท็น เลขาธิการสภาการเดินเรือระหว่างประเทศ ได้ออกโรงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาทางออกที่เหมาะสมให้กับการเผชิญหน้าในลักษณะนี้ เนื่องจากการสกัดกักเรือพาณิชย์ถือเป็นการคุกคามความปลอดภัยของนักเดินเรือ “การเดินเรือได้โดยอิสระเสรีมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการค้าโลก เราขอเรียกร้องให้ทุกประเทศยึดมั่นและเคารพต่อหลักการสำคัญนี้ของกฎหมายการเดินเรือระหว่างประเทศ”