อคส.ชง‘จุรินทร์’ ดันคอมมิวนิตีมอลล์
อคส. เตรียมชง “จุรินทร์” ดันพัฒนาคลังธนบุรีต่อหลังชะงักไปเกือบ 2 ปี สั่งบริษัทที่ปรึกษาทำข้อมูลใหม่เพิ่มให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.ร่วมทุนฉบับใหม่ พร้อมปัดฝุ่น 6 คลังภูมิภาคสร้างรายได้เพิ่ม เป้าปีนี้รายได้ 500 ล้าน
องค์การคลังสินค้า(อคส.)รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ นอกจากอยู่ระหว่างการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่เพื่อทดแทนคนเดิมที่หมดวาระแล้ว ยังมีภารกิจในการทำธุรกิจเพื่อเลี้ยงองค์กรให้อยู่รอด หนึ่งในนั้นคือการนำพื้นที่คลังสินค้าที่มีอยู่ในมือมาพัฒนาหารายได้
นายไพศาล เตี๋ยวงษ์สุวรรณ์ รองผู้อำนวยการ อคส. รักษาการผู้อำนวยการ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าธนบุรี 1 กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมแม่นํ้าเจ้าพระยาที่อคส.มีแผนจะพัฒนาให้เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ลักษณะคอมมิวนิตีมอลล์คล้ายกับเอเชียทีค ผสมกับเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อนำรายได้เข้าองค์กร ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำข้อมูลใหม่เพิ่มเติมให้สอดรับกับ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนพ.ศ.2562
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
“อคส.จะต้องให้บริษัทที่ปรึกษาไปศึกษาข้อมูลเพื่อให้สอดรับกับพ.ร.บ.ฉบับใหม่ด้วยหลังจากนั้นจะนำเสนอนายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้พิจารณา”
สำหรับคลังสินค้า 1 ธนบุรี มีพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ มูลค่าที่ดินประมาณ 1,206 ล้านบาท ที่ผ่านมาอคส.ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นที่ปรึกษาในการศึกษาแนวทางการลงทุนก่อนที่จะชะลอโครงการออกไป (เดิมโครงการมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2560) เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร นอกจากนี้อคส.ยังมีแผนจะปรับปรุงคลังสินค้าราษฎร์บูรณะพื้นที่ประมาณ 20 ไร่เพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมทำเป็นห้องเย็นได้ค่าเช่า 40 ล้านบาทต่อปี การปรับปรุงคลังจะช่วยให้เอกชนสนใจนำสินค้าที่มีมูลค่าสูงมาจัดเก็บ น่าจะทำให้อคส.มีรายได้เพิ่มเป็นเท่าตัวจาก 2 คลังข้างต้นปัจจุบันสร้างรายได้ 60 ล้านบาทต่อปี
อคส.ยังอยู่ระหว่างการทำการศึกษาเพื่อปรับปรุงคลังสินค้าที่อยู่ในภูมิภาค 6 คลัง เช่น ขอนแก่น สระบุรี นครสวรรค์ นครราชสีมา เป็นต้น ว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไรบ้าง จากเดิมให้เช่าพื้นที่เก็บพืชผลเกษตรและ ปุ๋ย หากปรับปรุงพื้นที่ เช่น เปิดให้จัดตลาดนัด อาจจะได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ อคส.ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 500 ล้านบาทแบ่งเป็นรายได้จากการขายข้าวประมาณ 400 ล้านบาท และจากให้เช่าคลัง 100 ล้านบาท มีกำไรประมาณ 9-10 ล้านบาท
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 39 วันที่ 21-24 กรกฎาคม 2562
