เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ ออกโรงแจง ปรับโครงสร้างใหม่ “ดีน แอนด์ เดลูก้า” แยกสองฝั่งเป็นอเมริกาและเอเชีย พร้อมลดขนาดธุรกิจในอเมริกา บริหารจัดการลดต้นทุน หวังหยุดภาวะขาดทุนในสิ้นปี ก่อนมั่นใจเดินหน้าขยายสาขาในเอเชียและไทยต่อเนื่อง
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเชนคาเฟ่ “ดีน แอนด์ เดลูก้า” เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการปรับโครงสร้างครั้งใหม่แยกบริษัทเป็นอเมริกาและเอเชียเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น โดยปัจจุบัน ดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์ ซึ่งบริหารร้านสาขาในอเมริกา ได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อให้เข้ากับภาวะตลาดฟู้ดรีเทลที่ท้าทายและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในอเมริกา ซึ่งเบื้องต้นเป็นการปรับขนาดธุรกิจด้วยการลดขนาด (downsize)ให้เหมาะสม ในการควบคุมค่าใช้จ่าย และควบรวมการดำเนินงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในสาขาที่ไม่สามารถทำยอดขายและกำไรได้ตามเป้า เพื่อผลักดันให้สาขาอเมริกาหยุดขาดทุนภายในสิ้นปีนี้
สรพจน์ เตชะไกรศรี
ขณะที่ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการร้านสาขาในประเทศไทย และยังดำเนินการให้ลิขสิทธิ์แบรนด์ สิทธิแฟรนไชส์ รวมถึงสิทธิการขายสินค้าในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียนั้น พร้อมกันนี้ยังสามารถทำยอดขายและสร้างผลตอบแทนให้บริษัทได้เป็นอย่างดี โดยในส่วนของประเทศไทยปีนี้ได้เตรียมขยายสาขาเพิ่ม 5 สาขา แบ่งเป็นบริษัทลงทุนเอง 3 สาขาในกรุงเทพฯ ในอาคารสินธร,โครงการสามย่านมิดทาวน์ และภายในธนาคารแห่งหนึ่ง ภายใต้งบประมาณสาขาละไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของภาคใต้บริษัทได้ให้สิทธิ์การขยายสาขารูปแบบแฟรนไชน์แก่บริษัท SKY19 จำกัด โดยได้เตรียมขยาย 2 สาขาในภูเก็ต ภายใต้งบประมาณ 15-20 ล้านบาทต่อสาขา จากปัจจุบัน ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ปัจจุบัน มีสาขาทั้งหมด 11 สาขา ประกอบด้วย สาขาที่เป็นคาเฟ่และร้านอาหาร เช่น Central Embassy, Emquartier, The Crystal Ramindra และสาขาตึกสาทรสแควร์, สาขาตึกออลซีซั่นส์เพลส, สาขาตึกพาร์คเวนเจอร์ และสนามบินสุวรรณภูมิ
“ธุรกิจแฟรนไชส์ ดีน แอนด์ เดลูก้า ยังคงเดินหน้าให้แฟรนไชส์แก่บริษัทที่มีศักยภาพและมีเครือข่ายในเมืองสำคัญทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และในส่วนที่ได้เซ็นสัญญาให้สิทธิแฟรนไชส์ไปแล้ว เช่น กับทางลากาแดร์ ทราเวล รีเทล ก็มีความคืบหน้าเช่นเดียวกัน โดยแผนธุรกิจต่อไปของ ดีน แอนด์ เดลูก้า คือการขยายแบรนด์และต่อยอดความสำเร็จของ ดีน แอนด์ เดลูก้า เอเชีย (ประเทศไทย) รวมถึงการเดินหน้าให้ธุรกิจแฟรนไชส์ ในเอเชียและทั่วโลกให้มั่นคงและมีประสิทธิภาพ”
อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนมิถุนายน 2561 ถึงเดือนพฤษภาคม 2562 หรือช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ดีน แอนด์ เดลูก้า (ประเทศไทย) สามารถทำรายได้รวมได้ประมาณ 523 ล้านบาท (EBITDA 79.8 ล้านบาท) รายได้จากต่างประเทศ 106 ล้านบาท (EBITDA 35.43 ล้านบาท) รวมทั้งสิ้น 630 ล้านบาท (EBITDA 115.23 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560-2561