‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

15 ก.ค. 2562 | 11:35 น.

นายกชาวนาฯ สั่งระดมสมาชิกทั่วประเทศเอกซเรย์พื้นที่ด่วน! รวบรวมยื่นปลัดเกษตร แนบหลักฐานจริง ต้องช่วยเหลือ ไม่ว่าจะสูบน้ำหรือรถบรรทุกน้ำผวาแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิเสียหาย เผยแจ้งมาแล้ว 4-5 จังหวัด ด้าน สทนช.ลงพื้นที่อีสานล่างชงแผนด่วน เล็งดึงน้ำจากเหมืองหินเก่าผลิต ดันงบกลาง สร้างอ่างฯ ขุดลอกเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บให้เห็นผลก่อนสิ้นฝน

 

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดหมายปริมาณฝนในช่วงปี 2562 จะมีปริมาณฝนรวมของทั้งประเทศน้อยกว่าปี 2561  และน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 5-10% ก่อให้เกิดการขาดแคลนน้ำด้านการเกษตร จากสถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้เอง จึงทำให้สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยเริ่มมีความเป็นห่วงจะส่งผลกระทบในพื้นที่ที่เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ หากมีความเสียหายจะทำให้ชาวนาเสียโอกาส

‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

นายสุเทพ คงมาก อดีตนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เบื้องต้นได้คุยหารือกับนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงแนวทางการช่วยเหลือจึงอยากให้กรรมการและสมาชิกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยทั่วประเทศช่วยรวบรวมข้อมูลพื้นที่ประสบภัยแล้งฝนทิ้งช่วงนาข้าวเสียหายจำนวนพื้นที่แต่ล่ะจังหวัดให้เป็นข้อมูลรวมเพื่อจะได้เสนอแนวทางช่วยเหลือให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เป็นข้อมูลยืนยันอีกทางหนึ่ง ล่าสุดได้มีมาแจ้งแล้ว 4-5 จังหวัด อาทิ มหาสารคาม และชัยภูมิ เป็นต้น แล้วยังมีภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น

‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

ด้านนายสำเริง  แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ฝนน้อยกว่าเกณฑ์ปกติที่เกิดขึ้น และอาจจะเกิดสถานการณ์แห้งแล้งรุนแรงมากขึ้นในอนาคต โดยได้กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือให้ประชาชนได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด โดยสถานการณ์น้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือขณะนี้ พบว่า มีปริมาณน้ำภาพรวมคิดเป็นทั้งสิ้น 4,344 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 33%

‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

โดยแหล่งน้ำขนาดใหญ่เฝ้าระวังน้ำน้อยกว่า 30% จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ 28% เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ 27% เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น 24%  เขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ 23% เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี 23% เขื่อนน้ำพุง จ.สกลนคร 21% เขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา 15% ขณะที่แหล่งน้ำขนาดกลางปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% จำนวน 97 แห่ง ขณะที่ปริมาณฝนสะสม 15 วัน น้อยกว่า 30 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ามีปริมาณฝนตกน้อยมีความเสี่ยงที่จะขาดแคลนน้ำและสถานการณ์แล้งใน 105 อำเภอ 12 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำพู กาฬสินธุ์ ยโสธร ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และนครราชสีมา

‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

โดยแผนเร่งด่วนที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานเจ้าภาพเร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมทั้งการปฏิบัติการฝนหลวง การเชื่อมต่อและหาแหล่งน้ำที่มีในบริเวณใกล้เคียง การใช้น้ำบาดาล หาแหล่งน้ำสำรอง ที่มีความเสี่ยงขาดอุปโภค-บริโภค โดยเฉพาะสุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ ที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำประปา  การเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ รถบรรทุกน้ำ รวมถึงได้แจ้งให้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการบริหารจัดการสำรวจความเสียหายด้านเกษตร และการวางแผนการปลูกพืชฤดูแล้งนี้เป็นการล่วงหน้าด้วย ขณะเดียวกัน สทนช.ยังได้เร่งรัดแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำปี 2562 ในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล ซึ่งมีทั้งสิ้น 1,045 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ 45,665 ไร่ อาทิ โครงการประตูระบายน้ำหาดแสงจันทร์ จ.นครราชสีมา โครงการฝายบ้านก้านเหลือง จ.บุรีรัมย์  โครงการปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาศรีสะเกษ เป็นต้น

‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

รวมถึงแผนการขุดลอกอ่างและแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝน ตามที่ สทนช.ได้เสนอ ครม.อนุมัติงบกลาง 1,200 กว่าล้านบาท 144 โครงการนั้น เป็นโครงการในลุ่มน้ำมูลพื้นที่ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ รวม 23 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ 17,810 ไร่ ปริมาณน้ำ 6 ล้าน ลบ.ม.โดยมีโครงการสำคัญ อาทิ ขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยซันโพรง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมอาคารประกอบ จ.นครราชสีมา การเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก จ.บุรีรัมย์ และขุดลอกหนองสะหนุน จ.ศรีสะเกษ  รวมถึงแผนการสร้างอ่างฯ ประตูระบายน้ำ ขุดลอกแหล่งเก็บน้ำ ในปี 63-65 ในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 2,105 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ 56,804 ไร่ ปริมาณน้ำ 66 ล้าน ลบ.ม. อาทิ โครงการประตูระบายน้ำบ้านท่าม่วง จังหวัดบุรีรัมย์ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำกุดตลาดยาว (พื้นที่แก้มลิง) จังหวัดบุรีรัมย์ ขุดลอกหนองน้ำไดตาเจก จังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น

‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

สำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคที่เกิดขึ้นในจังหวัดบุรีรัมย์ เร่งด่วนในระยะสั้นมี 4 มาตรการ ได้แก่ 1.การประปาส่วนภูมิภาคได้จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อใช้ผลิต ซึ่งปัจจุบันได้ใช้มาตรการลดแรงดันน้ำในช่วงกลางคืนเพื่อยืดเวลาการใช้น้ำให้ได้ประมาณ 2 เดือน 2. ชลประทานบุรีรัมย์จะทำการเปิดทางน้ำภายในอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด เพื่อนำน้ำที่มีปริมาณประมาณ 4 แสน ลบ.ม. ให้ไหลเข้าบริเวณโรงสูบของการประปาโดยตรง

‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

3.การนำน้ำจากเหมืองหินเก่า ซึ่งเป็นที่ของเอกชนมาใช้เพิ่มเติมในระบบของประปา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทานจะบูรณาการร่วมกันและจัดหาเครื่องสูบน้ำเข้ามาดำเนินการเพื่อเป็นแผนสำรองให้มีน้ำประปาได้ถึง 50 วัน 4.มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจัดทำแผนเร่งด่วนในการเจาะบ่อน้ำบาดาล บริเวณรอบอ่างทั้งสองแห่งด้วย

‘สุเทพ’ ผวาฝนทิ้งช่วง ห่วงข้าวยืนต้นตายสั่งลุยชี้เป้าช่วยเหยื่อแล้ง

“พื้นที่ภาคอีสานตอนล่างปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ พายุมูนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ฝนไปตกบริเวณชายขอบภาคเท่านั้น  ซึ่งในระยะ 1-2 วันนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าแนวโน้มฝนดีขึ้นแต่ไม่มากนัก ดังนั้น ทุกหน่วยงานต้องติดตามการคาดการณ์สภาพฝนจากกรมอุตุฯอย่างใกล้ชิดด้วย เพื่อเร่งเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ และประเมินผลกระทบต่อเนื่องด้วย โดยเฉพาะความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการเกษตร รวมถึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำแผนงานโครงการระยะกลาง และระยะยาว เสนอมายัง สทนช. เพื่อเสนอ กนช.ให้ความเห็นชอบอนุมัติแผนงานโครงการงบปประมาณต่อไป”นายสำเริง  กล่าว