นโยบายรัฐบาล แบบไร้รอยต่อ

13 ก.ค. 2562 | 05:33 น.

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3487 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 14-17 ก.ค.2562

 

นโยบายรัฐบาล

แบบไร้รอยต่อ

                รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 162 บัญญัติเกี่ยวกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) จะแถลงต่อรัฐสภา ไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์ชาติ ที่สำคัญคือต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนํามาใช้จ่ายในการดําเนินนโยบาย

                นอกจากนี้ในมาตรา 164 ยังบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินของครม.ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ เปิดเผย และมีความรอบคอบและระมัดระวังในการดําเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม 2. รักษาวินัยในกิจการที่เกี่ยวกับเงินแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด 3. ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และ 4. สร้างเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นธรรม ผาสุก และสามัคคีปรองดองกัน

                อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นรัฐบาลผสมที่มาจาก 19 พรรคการเมือง จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดทำนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภานั้น แต่ละพรรคก็ต้องการผลักดันนโยบายของตัวเองที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนบรรจุลงไปในคำแถลงนโยบายด้วย ซึ่งมีทั้งนโยบายที่สอดคล้องกันและไม่สอดคล้องกัน

                โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ที่ได้หาเสียงเอาไว้ กำลังกลายเป็นที่จับตาของนักลงทุนว่ารัฐบาลจะสามารถเดินหน้านโยบายได้ทั้งหมดให้เห็นผลในเชิงประจักษ์ได้หรือไม่ เพราะถ้าประเมินจาก 3 นโยบายหลักๆ พบว่าจะต้องใช้เงินงบประมาณในแต่ละปีสูงถึง 3.5 แสนล้านบาท ประกอบด้วย นโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและโครงการมารดาประชารัฐ 7.2 หมื่นล้านบาทต่อปี 2. การดูแลราคาสินค้าเกษตร 1 แสนล้านบาทต่อปี และ 3.ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% สำหรับคนชั้นกลางอีก 1.7 แสนล้านบาท

                ดังนั้นในการจัดทำนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ โจทย์ใหญ่จึงอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 19 พรรคต้องหาข้อสรุปในการจัดทำนโยบายรัฐบาลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันแบบไร้รอยต่อ เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้า สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุน และที่สำคัญคือจะต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ