โปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ไปเรียบร้อย หลังจากนี้ไปรัฐบาลต้องรีบเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจชนิดที่เรียกว่าต้องออกแรงสตาร์ตเครื่องยนต์ให้แรงๆ โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตร อารมณ์นี้ขอโฟกัสตรงไปที่กระทรวงอุตสาหกรรมก่อน เพราะเกี่ยวข้องกับเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศนับล้านครัวเรือน แถมยังเป็นฐานสำคัญในการหาเสียงของบรรดานักการเมืองอีกด้วย
พรายกระซิบจากแกนนำชาวไร่อ้อยหลายพื้นที่บอกว่าผิดโผผิดตัว พูดกันตรงๆ ตามประสาชาวบ้าน หลงดีใจคิดว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะมานั่งแก้ปัญหาปากท้องชาวไร่อ้อย เนื่องจากมาจากพรรคใหญ่ มีโอกาสเข้าถึงตัวนายกรัฐมนตรีได้มากกว่า แถมน่าจะเป็นบุคคลที่เข้าใจหัวอกของเกษตรกรดีที่สุด จากที่มีประสบการณ์ตรงจากกระทรวงพาณิชย์มาก่อน
-ดักคอ อย่าโฟกัสแต่อุตสาหกรรม
ขณะเดียวกันเกษตรกรชาวไร่อ้อยก็แอบกังวลว่า การที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คัมแบ็กหนนี้นอกจากลึกๆเจ้าตัวไม่ปลื้มแล้ว ชาวไร่อ้อยเองก็ผิดหวัง! เพราะเกรงว่าจะซ้ำรอยเดิมที่นายสุริยะ ไปให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมการผลิตเป็นหลักก่อน เพราะมาจากแวดวงนักธุรกิจเหมือนกัน ชาวไร่อ้อยบางพื้นที่ก็บ่นว่า “เวลานี้ไม่ได้คาดหวังกับตัวรัฐมนตรี แต่คาดหวังจากรัฐบาล หรือพรรคการเมืองหลักมากกว่าที่จะออกมาแก้ปัญหาต่างๆได้เร็วขึ้น”
-ได้เวลาถอดสูทบุกไร่อ้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อนายสุริยะกลับมาอีกครั้ง เสียงจากชาวไร่อ้อยอยากให้ปรับบทบาท ถอดสูท ปลดเน็กไท หันมาคาดผ้าขาวม้าลงพื้นที่ดูแลปากท้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยแบบจับเข่าคุยกัน เพราะเวลานี้ยังมีเรื่องเร่งด่วนที่นายสุริยะจะต้องรีบศึกษาและสะสางถึง 3 เรื่องหลักดังนี้
1.ราคาอ้อยที่ตกต่ำเข้าสู่ปีที่ 3 ปี 2561/2562 ราคาอ้อยอยู่ที่ 700 บาทต่อตันอ้อย และรัฐบาลช่วยค่าปัจจัยการผลิตอีกตันละ 50 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าได้โควตาละไม่เกิน 5,000 ตันอ้อย และกองทุนอ้อยและน้ำตาลช่วยอีก 53 บาทต่อตันอ้อย โดยไม่จำกัดจำนวน ทำให้ราคาอ้อยขยับขึ้นมาที่ 803 บาทต่อตันอ้อย ที่ค่าความหวาน 10 ซีซีเอส แต่ก็ยังเป็นราคาที่ต่ำ เปรียบเทียบจากที่ราคาเคยสูงต่อเนื่องที่ระดับ 1,000 บาทต่อตันอ้อยขึ้นไป
-4องค์กรชาวไร่อ้อยนัดหารือ25-26ก.ค.นี้
จากประเด็นดังกล่าว ทำให้วันที่ 25-26 กรกฏาคมนี้ 4 องค์กรชาวไร่อ้อยซึ่งประกอบด้วย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย,ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน,สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยและสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย นัดรวมตัวกันหารือแนวทางแก้ปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ เมื่อตกผลึกก็จะสรุปผลทั้งหมดนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาล เพื่อพิจารณาทางออกร่วมกันต่อไป
2. จากนโยบายรัฐที่ฟันธงออกมาตามมติครม.ก่อนหน้านี้ (11 มิ.ย.62) เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เสนอแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ ที่จะมีการออกระเบียบให้ทันในฤดูการผลิตปี 2562/2563 กำหนดให้โรงงานน้ำตาลจะรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกิน 30% ต่อวัน สำหรับในฤดูการผลิต ปี 2563 /2564 โรงงานน้ำตาลจะรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกิน 20% ต่อวัน และในฤดูการผลิตปี 2564/2565 จะลดปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบเพียง 0-5% ต่อวัน ซึ่งจะทำให้อ้อยไฟไหม้หมดไปภายใน 3 ปี
จากมติครม.ดังกล่าวทำเอาชาวไร่อ้อยแปลงเล็กหรือเกษตรกรรายย่อยที่มีจำนวนมากต้องเดินคอตก ไม่มีทั้งเครดิตและกำลังทรัพย์ที่จะไปกู้เงินหรือไปลงทุนซื้อเครื่องจักรมาตัดอ้อย แม้รัฐบาลจะมีเพดานอัตราดอกเบี้ยต่ำมากองอยู่ตรงหน้าก็ตาม
3. รัฐต้องลงมาดูแลระบบแบ่งปันผลประโยชน์70/30 (ชาวไร่อ้อย 70% และโรงงานน้ำตาล30%)ให้รอบคอบ เนื่องจากเวลานี้มีประเด็นที่จะนำอ้อยไปทำผลิตภัณฑ์อื่นนอกเหนือจากการนำไปผลิตเป็นน้ำตาล เช่นนำไปทำเอทานอล ไบโอพลาสติก ก็ควรให้เกิดความยุติธรรมในการจัดสรรปันส่วนจากเค้กก้อนนี้
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต7 และหัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย สะท้อนปัญหาให้เห็นภาพว่า เมื่อรัฐบาลมีมติลดปัญหาเรื่องอ้อยไฟไหม้ออกมาแบบนี้ ชาวไร่จะทำอย่างไรเพราะต้องลงทุนสูง และสวนทางกับความเป็นจริงที่ในตอนนี้ราคาอ้อยตกต่ำลง ปริมาณอ้อยปี 2561 อยู่ที่ 130 ล้านตันอ้อย แบ่งเป็นอ้อยไฟไหม้ 80 ล้านตัน เป็นอ้อยสด 50 ล้านตัน จะทำได้อย่างไร เรื่องนี้ยังเป็นประเด็นที่ต้องหารือร่วมกันต่อไป
ด้านนายชัยวัฒน์ คำแก่นคูณ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ตั้งข้อสังเกตว่า ปี 2562/2563 มีสัญญาณว่าราคาอ้อยจะทรงตัวอยู่ที่ระดับเดิม ดูจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าที่คาดการณ์ อีกทั้งปริมาณน้ำตาลในสต๊อกโลกยังมีเยอะ ในขณะที่ราคาอ้อยยังยืนได้ไม่ถึงจุดคุ้มทุน แบบนี้เกษตรกรคงไม่มีกำลังลงทุนแก้ปัญหาลดพื้นที่เผาอ้อย แม้มติครม.ก่อนหน้านี้จะออกมาช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ แต่คนที่มีกำลังซื้อเครื่องจักรมาตัดอ้อยจะต้องมีศักยภาพโดยมีโรงงานน้ำตาลเข้ามาค้ำประกันให้ และจะต้องเป็นชาวไร่อ้อยรายใหญ่ ที่มีอ้อยแปลงใหญ่ มีปริมาณอ้อยจำนวนมากถึงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน แต่ในความเป็นจริงในประเทศไทยยังมีเกษตรกรรายย่อยที่ปลูกอ้อยจำนวนมากและไม่มีกำลังลงทุน
“ชาวไร่ยินดีปฏิบัติตามโดยลดพื้นที่เผาอ้อยตามมติครม.ก่อนหน้านี้ แต่มีข้อจำกัดที่ชาวไร่อ้อยจำนวนมากมีทุนน้อย แรงงานไม่มี ค่าแรงก็สูง อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมลงมาเปิดกว้าง เพื่อมารับฟังความคิดเห็นของชาวไร่อ้อย มานั่งจับเข่าคุยกันเพื่อรับทราบปัญหาก่อน จะได้แก้ไขปัญหาได้ถูกทาง”
ฟังกันให้ชัดๆ เรื่องด่วนๆที่ ชาวไร่อ้อยตัวจริงบอกว่าเป็นปัญหาปากท้องของเกษตรกรจำนวนมาก ที่ส่งสัญญาณมาถึงนายสุริยะ และตอกย้ำว่าการกลับมาครั้งนี้ต้องสวมบทติดดิน สลัดภาพนักธุรกิจ ลงมาลุยไร่อ้อย รับทราบปัญหาจากเกษตรกรชาวไร่อ้อย
อ้อยคือพืชการเมืองฐานเสียงสำคัญทางการเมือง ถึงเวลาทวงสัญญาแล้ว.....โปรดอย่ามองข้ามเสียงระฆังยกแรกเพิ่งเริ่มต้น !!!
คอลัมน์ : Let Me Think
โดย : TATA007