4 พันธมิตรร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ไทยดันสู่ตลาดโลก

11 กรกฎาคม 2562

4 พันธมิตรร่วมทุนทำงานรวมความชำนาญเฉพาะด้าน เร่งสร้างภาพยนตร์ไทยดันสู่ตลาดโลก ล่าสุดส่งโปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง ทดสอบตลาด คาดสิ้นปีตลาดหนังไทยมีส่วนแบ่งเพิ่ม 30%

4 พันธมิตรร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ไทยดันสู่ตลาดโลก

นายสง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์มจำกัด เปิดเผยว่า บริษัทร่วมกับพันธมิตรอีก 3 ราย ได้แก่ บริษัท บีฮีมอธ แคปปิตอล จำกัด  , บริษัท นอร์ธสตาร์ สตูดิโอ จำกัด และบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด ร่วมลงทุนสร้างภาพยนตร์ เพื่อให้ภาพยนตร์ที่ออกมาผู้ชมได้รับประโยชน์และสามารถตอบโจทย์ตลาดสากลได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงในแง่การลงทุนการสร้างภาพยนตร์ได้ดีกว่าในอดีต ขณะที่ในด้านของงบลงทุนปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้งบการผลิตภาพยนตร์ต่อเรื่องราว 40-60 ล้านบาท และมีแผนผลิตภาพยนตร์มากกว่า 10 เรื่องในปีนี้ อาทิ โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง , ขุนแผน ฟ้าฟื้น อื่นๆ


"ในอดีตเราจะเน้นการผลิตภาพยนตรไทยแบบรายเดียว ซึ่งหากภาพยนตร์เรื่องนั้นขาดทุน เราก็จะได้รับผลกระทบคนเดียว แต่หลังจากที่เราจับมือร่วมกันครั้งนี้จะช่วยให้กระจายความเสี่ยงลดการขาดทุนจากการผลิต รวมถึงมีทุนสร้างภาพยนตร์คุณภาพได้มากขึ้น และมีตลาดหารายได้จากช่องทางต่างๆทั้งในและต่างประเทศเนื่องจากพันธมิตรที่เข้าร่วมมีความชำนาญเฉพาะด้าน อีกทั้งยังมีส่วนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ มีคุณภาพและประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น"

 

สำหรับการลงทุนกับทั้ง 3 บริษัทพันธมิตรนั้น มีแผนการลงทุนแบบระยะยาวเป็นการใช้เงินลงทุนและกำไรหมุนเวียนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องต่อ ๆ ไป พร้อมทั้งในอนาคตบริษัทมีแผนจะร่วมทุนกับพันธมิตรจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบคราวนด์ฟันดิ้ง ที่เปิดให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถมาร่วมลงทุนผลิตภาพยนตร์เป็นเรื่องๆไป 

 

4 พันธมิตรร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ไทยดันสู่ตลาดโลก

ด้านนายวิบูลย์ ลีรัตนขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีฮีมอธ แคปปิตอล จำกัด  เปิดเผยว่า ปัจจุบันรูปแบบการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ต้องเปลี่ยนไปตามตลาดโลก และพฤติกรรมผู้ชม ในอดีตแตกต่างจากปัจจุบันอย่างมาก แต่ปัจจุบันต้องเปลี่ยนการโปรโมทรูปแบบใหม่โดยประชาสัมพันธ์งล่วงหน้ากว่า 1 เดือนเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้ชม และหากเทียบกับหนังฟอร์มใหญ่ต่างประเทศพบว่าใช้เวลาการโปรโมทข้ามปี

"ผมว่าวันนี้ตลาดภาพยนตร์ไทยยังเติบโตได้อีกมาก แต่เราต้องสร้างกลุ่มคนรักภาพยนตร์ไทยให้เกิดขึ้น เพื่อจะรักษาภาพยนตร์ไทยให้คงอยู่ ขณะเดียวกันปีนี้ตลาดภาพยนตร์ไทยมีมูลค่าปัจจุบันเกือบหมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ภาพยนตร์ไทย 18% และที่เหลือเป็นภาพยนตร์ต่างประเทศกว่า 80% ขณะที่ในปีนี้คาดว่าส่วนแบ่งตลาดภาพยนตร์ไทยจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 30%"