“นายกฯ”แถลงนโยบายปลายก.ค. ที่หอประชุมทีโอที

“ชวน” คาดรัฐบาลแถลงผลงานปลาย ก.ค.นี้ ใช้หอประชุมทีโอที ชี้รัฐสภาใหม่ที่นั่งไม่ถึง 750 คน

วันที่ 11 ก.ค. ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที แจ้งวัฒนะ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความพร้อมในการเตรียมสถานที่แถลงนโยบายรัฐบาลว่า คาดว่ารัฐบาลจะแถลงผลงานในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ โดยใช้สถานที่หอประชุมใหญ่ทีโอที แจ้งวัฒนะในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากห้องประชุมจันทราที่รัฐสภาใหม่ มีเพียง 350 ที่นั่ง แต่จะเสริมขึ้นมาให้ได้ 500 ที่นั่งชั่วคราวเพื่อสามารถประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ดังนั้นจึงไม่เพียงพอกับการประชุมร่วมรัฐสภา 750 ที่นั่ง

"ทั้งหมดเกิดจากที่ห้องประชุมสภาใหม่ ย่านเกียกกายยังไม่เรียบร้อย ดังนั้นสมมุติว่าเดือนหน้าห้องประชุมจันทรา ที่สภาใหม่สามารถใช้ได้ก่อนก็จะมีเครื่องลงคะเเนน โดยในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ผมและทุกฝ่ายจะไปตรวจความพร้อมของห้องจันทรา ว่าจะสามารถใช้ได้เมื่อไร ซึ่งที่ห้องประชุมทีโอทีก็ถือว่าดี แต่ยังขัดข้องในเรื่องของเครื่องลงคะแนนเท่านั้น" นายชวน กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้ระหว่างที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ถวายสัตย์ปฏิญาณ ทางสภาจะมีการหยุดพักการประชุมก่อนหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ทางสภาไม่ได้เป็นอุปสรรค และสามารถที่จะจัดประชุมได้ เพียงแต่ในอดีตเมื่อมีการแต่งตั้งครม. เมื่อโปรดเกล้าฯเรียบร้อยแล้ว ทางคณะรัฐมนตรีก็จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก็ถือว่ามีรัฐบาลใหม่ แต่ขณะนี้ยังถือว่ายังเป็นรัฐบาลเดิมอยู่ซึ่งเป็นไปตามข้อยกเว้นตามบทเฉพาะกาลตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 และจริงๆแล้วเมื่อมีรัฐบาลใหม่ ทางสภาก็จะหยุดพักการประชุมเพื่อรอให้รัฐบาลใหม่แถลงนโยบายภายใน 15 วัน ซึ่งตนเข้าใจว่าขณะนี้รัฐบาลคงเตรียมนโยบายไว้แล้ว การแถลงผลงานจึงน่าจะใช้ระยะเวลาไม่ถึงกรอบ 15 วัน

ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฏร ว่า ที่ประชุมมีความเห็นต่างกันว่าควรมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญหรือใช้คณะกรรมาธิการเต็มสภา ซึ่งจากการปรึกษากับประธานคณะกรรมาธิการร่างข้อบังคับ ว่าหากตั้งคณะกรรมาธิการจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไร ซึ่งทราบว่าอย่างน้อยต้องใช้ระยะเวลากว่า 10 วัน สมมุติแปรญัตติได้ภายใน 3 วัน คณะกรรมาธิการก็จะพิจารณาแล้วเสร็จ 22-23 ก.ค.นี้ แต่หากที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาเต็มสภา และหากพิจารณาเสร็จในวันนี้ (11 ก.ค.)ช่วงค่ำ หรือหากไม่เสร็จก็จะเลื่อนไปพิจารณาในสัปดาห์หน้า ซึ่งสมาชิกก็มีความเห็นต่างกัน โดยส่วนหนึ่งบอกว่ามีงานในพื้นที่ทางด้านศาสนา แต่อีกส่วนหนึ่งระบุว่าให้มีการประชุมต่อในวันที่ 18 ก.ค.นี้

ทั้งนี้การพิจารณาข้อบังคับก็ใช้วิธีการเดียวกับการพิจารณาข้อกฎหมายซึ่งจะเสียเวลาในการลงมติเเต่ละเรื่อง ซึ่งการที่ตนเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพราะเพื่อให้เกิดความรอบคอบ เนื่องจากข้อบังคับมีทั้งหมด 192 มาตรา ต้องพิจารณาทีละมาตรา หากพิจารณาโดยใช้คณะกรรมาธิการเต็มสภา ก็ต้องพิจารณาทีละมาตรเช่นกัน และวิธีการลงคะเเนนแบบเรียกชื่อรายบุคคล ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานาน โดยเราก็ใช้วิธีการแจกบัตรในลงคะเเนนอย่างที่เคยเห็นไปก่อนหน้านี้แล้ว