เฟดส่งสัญญาณ ‘ลดดอกเบี้ย’ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี

10 ก.ค. 2562 | 23:42 น.

ในการเข้าแถลงสถานการณ์เศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงิน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562 ตามเวลาท้องถิ่น นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด)ได้ส่งสัญญาณถึงการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งตลาดตีความว่าหากเกิดขึ้นในการประชุมของเฟดครั้งต่อไปปลายเดือนกรกฎาคมนี้ (30-31 ก.ค.) ก็จะเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปีของสหรัฐฯ

เจอโรม พาวเวล


 

ประธานเฟดระบุถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างและกลายเป็นเงาดำทะมึนปกคลุมแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะไร้สเถียรภาพที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับจีนและประเทศอื่นๆ แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะรายงานตัวเลขการจ้างงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่นายเจอโรมก็เห็นว่า ข้อมูลจากประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่รายอื่นๆ ยังออกมาน่าผิดหวังอย่างต่อเนื่อง ขยายวงกว้างไปทั้งยุโรป เอเชีย และสร้างแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง ภาคการผลิต การค้าและการลงทุน ตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอทั่วโลก “เราเห็นพ้องที่จะเริ่มหารือการค้ากับจีนอีกครั้ง และนั่นคือก้าวที่สร้างสรรค์ แต่ก็ยังไม่สามารถขจัดความไม่แน่นอนออกไป” ประธานเฟดกล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลง อย่างไรก็ตาม เขาให้คำมั่นว่าจะ “กระทำการอย่างเหมาะสม”เพื่อปกป้องการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่กำลังตกอยู่ภายใต้การคุกคามจากความขัดแย้งทางการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

เฟดส่งสัญญาณ ‘ลดดอกเบี้ย’ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี
 

เกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ตัวเลขชี้อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำนั้น นายเจอโรมมองว่า อัตราว่างงานระดับต่ำในปัจจุบันอาจนำไปสู่การดิ่งลงของเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ภาพรวมในการขยับขึ้นของราคาซึ่งเป็นดัชนีชี้เงินเฟ้อ ยังคงเงียบเหงาอยู่ และการขึ้นค่าแรงก็ยังราบเรียบ ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยลงได้โดยไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป เขายังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ปรับตัวค่อนข้างดีในไตรมาสแรก ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสสองดีดตัวขึ้นหลังจากปรับตัวแผ่วบางในไตรมาสแรก  อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจสหรัฐฯโดยรวมได้ชะลอตัวลงในไตรมาสสอง กรรมการเฟดมีความเห็นพ้องกันว่า มีปัจจัยสนับสนุนมากขึ้นต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่านี้ ซึ่งนับจากนั้นมา ข้อมูลต่างๆที่เฟดได้รับล้วนบ่งชี้ว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้าและความวิตกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

 

นายพาวเวลยังมีกำหนดการที่ต้องกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 11 ก.ค.นี้