4 อุตฯเอส-เคิร์ฟ มาแรง ครึ่งปีลงทุน เกือบ 2 หมื่นล. อิเล็กทรอนิกส์นำโด่ง

12 ก.ค. 2562 | 09:40 น.

 

 

 

กรอ.เผยยอดขอประกอบและขยายกิจการโรงงาน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ครึ่งแรกปี 62 ยอดพุ่งเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุน ใน4อุตฯเอส-เคิร์ฟทั้งอิเล็ก ทรอนิกส์ ยานยนต์ แปรรูปอาหาร และหุ่นยนต์

นโยบายการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี โดยพุ่งเป้าให้เกิดการลงทุนใน 12 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ขณะนี้เริ่มจะได้เห็นการลงทุนเกิดขึ้นจริงในพื้นที่อีอีซีมากขึ้น หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายหรือเอส-เคิร์ฟ ในช่วงปี 2561 ไปแล้วราว 695 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนราว 4.17 แสนล้านบาท โดยโครงการที่ได้อนุมัติส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมดิิจิทัล จำนวน 142 โครงการ เม็ดเงินลงทุน 6,945 ล้านบาท แต่หากพิจารณาแง่เงินลงทุนสูงสุดจะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ จำนวน 103 โครงการ เงินลงทุน 2.05 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนแล้วบีโอไอจะให้ระยะเวลา 3 ปี ในการลงทุน หากไม่มีการลงทุนจริงเกิดขึ้น ก็จะยึดใบอนุญาตคืน

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นับจากที่รัฐบาลมีนโยบายอีอีซีเกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นให้เกิดการลงทุนใน 12 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือเอส-เคิร์ฟ ในพื้นที่อีอีซี พบว่ามีนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศตัดสินใจที่จะลงทุน หลังจากที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไออย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก 6 เดือนแรกของปีนี้(มกราคม-8 กรกฎาคม) มีนักลงทุนขอประกอบและขยายกิจการโรงงานรวม 50 โครงการ เงินลงทุนรวม 19,685 ล้านบาท โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ลงทุนสูงสุดที่ 13,240 ล้านบาท จำนวน 11 โครงการ รองลงมาเป็นกลุ่มยานยนต์ 5,836 ล้านบาท จำนวน 20 โครงการ กลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร 232.8 ล้านบาท จำนวน 13 โครงการ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และแขนกล 195.22 ล้านบาท จำนวน 4 โครงการ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 180 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ

4 อุตฯเอส-เคิร์ฟ มาแรง ครึ่งปีลงทุน เกือบ 2 หมื่นล. อิเล็กทรอนิกส์นำโด่ง

 

สำหรับจังหวัดที่มีการลงทุนสูงสุด จะอยู่ในจังหวัดระยอง จำนวน 10 โครงการ เงินลงทุน 13,894 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รองลงมาเป็นยานยนต์ และแปรรูปอาหาร รองลงมาเป็นจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 13 โครงการ เงินลงทุน 4,435 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ รองลงมาเป็นอิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์และแขนกล ส่วนจังหวัดชลบุรี มีจำนวน 27 โครงการ เงินลงทุน 1,355 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ รองลงมาเป็นอิเล็กทรอนิกส์ และแปรรูปอาหาร เป็นต้น

ทั้งนี้หากเปรียบเทียบการขอประกอบและขยายกิจการโรงงานในพื้นที่อีอีซีโดยรวมของครึ่งปี 2562 จะอยู่ที่ 251 โครงการ เงินลงทุนรวม7.39 หมื่นล้านบาท

4 อุตฯเอส-เคิร์ฟ มาแรง ครึ่งปีลงทุน เกือบ 2 หมื่นล. อิเล็กทรอนิกส์นำโด่ง

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการลงทุนในอุตสาหกรรมเอส-เคิร์ฟตามนโยบายอีอีซีจะเห็นว่า มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 15,227 ล้านบาท จำนวน 64 โครงการ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 14 โครงการ เงินลงทุน 7,718 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร จำนวน 29 โครงการ เงินลงทุน 3,846 ล้านบาท และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 10 โครงการ เงินลงทุน 3,015 ล้านบาท เป็นต้น

ขณะที่ปี  2561 ขอประกอบและขยายกิจการโรงงาน จำนวน 56 โครงการ เงินลงทุน 5,786 ล้านบาทส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 17 โครงการ เงินลงทุน 1,986 ล้านบาท รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และแขนกล 6 โครงการ เงินลงทุน 1,934 ล้านบาท และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร จำนวน 20 โครงการ เงินลงทุน 1,542 ล้านบาท เป็นต้น 

หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3486 ระหว่างวันที่ 11 - 13 กรกฎาคม 2562

4 อุตฯเอส-เคิร์ฟ มาแรง ครึ่งปีลงทุน เกือบ 2 หมื่นล. อิเล็กทรอนิกส์นำโด่ง