เชื่อหรือไม่? “ทักษิณ”วางมือการเมือง       

เชื่อหรือไม่?

“ทักษิณ”

วางมือการเมือง       

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คิดจะวางมือทางการเมือง หรือมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการวางมือการเมือง

เพราะหากไล่ย้อนวาทกรรมของนายทักษิณ อดีตนายกฯ ตลอดช่วง 13 ปีมานี้ สังคมไทยได้ยินวาทกรรม “...จะวางมือทางการเมือง”, “...จะยุติบทบาททางการเมือง” และ “...ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมือง” มาแล้วหลายครั้ง ทั้งจากปากคนใกล้ชิดและจากปากของนายทักษิณ เอง นับตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง 

“ฐานเศรษฐกิจ” ประมวล 9 วาทกรรมซ้ำซากมาทบทวนความทรงจำกันดู ... ครั้งแรกเกิดขึ้นหลังจากวันที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในวันที่ 3 ตุลาคม 2549 ไม่กี่วันหลังจากนั้น นายนพดล ปัทมะ แกนนำคนสำคัญของพรรคไทยรักไทยในเวลานั้นออกมาระบุ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2549 ตอนหนึ่งว่า “...ภายหลังลาออกจากหัวหน้าพรรคไทยรักไทยแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะยุติบทบาททางการเมือง”

หลังจากนั้น 2 ปี วาทกรรมนี้หวนกลับมาอีกครั้ง ระหว่างหนีภัยทางการเมืองอยู่ที่รัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกมาให้ข่าวด้วยตัวเองในวันที่ 1 มกราคม 2551 ว่า “ผมจะวางมือทางการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์ และจะคอยให้คำปรึกษาในฐานะผู้มีประสบการณ์เท่านั้น”

ทั้งยังออกมายืนยันย้ำกับสังคมอีกรอบในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 เมื่อวันที่เดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อต่อสู้ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกว่า “การกลับมาวันนี้ของผมไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมือง....ผมขอเป็นประชาชนคนไทย ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ผมไปมาทั่วโลก ไม่มีแผ่นดินไหนอบอุ่นเท่าเมืองไทย”

แต่ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองจะมีคำพิพากษา นายทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้ขออนุญาตศาลเดินทางออกนอกประเทศ ให้เหตุผลว่า เดินทางไปปฎิบัติภารกิจที่ประเทศจีนและญี่ปุ่น เมื่อถึงวันนัดให้ไปรายงานตัวต่อศาลวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ทั้งคู่ไม่มารายงานตัว แต่ไปปรากฎตัวที่กรุงลอนดอน ประเทศศอังกฤษ

ก่อนจะออกมาบอกกับสังคมไทยในวันที่ 22 กันยายน 2552 ว่า หากผมไม่ถูกปฏิวัติก็จะอยู่ครบเทอมราวปลายปี 2552 ซึ่งตั้งใจว่า จะวางมือเลิกเล่นการเมืองในช่วงเวลานั้น 

ห่างหายจากวาทกรรมนี้อยู่หลายปี หลังจากผลักดันให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้อย่างที่ตั้งใจเมื่อปี 2554 ในวันที่ 15 เมษายน 2555 นายทักษิณ ก็ประกาศย้ำกับสังคมไทยอีกครั้งว่า “ไม่คิดเข้าสู่การเมือง น้องผมเป็นนายกฯแล้ว มันหมดเจนเนอเรชั่นผมแล้ว”

ในห้วงเวลาที่สังคมไทยเกิดความขัดแย้งวุ่นวายทางการเมือง ในวันที่ 20 เมษายน 2557 นายทักษิณ อดีตนายกฯ ออกมาประกาศว่า “ถ้าทุกฝ่ายคืนความยุติธรรมให้ประเทศแล้ว ขอให้จบ จะให้คนตระกูลชินวัตรเลิกเล่นการเมืองก็พร้อม เพราะถ้าปล่อยไปอย่างนี้เรื่อยๆ ก็เสี่ยงเกิดความรุนแรง”

ภายหลังรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกรัฐประหารโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ปรากฎความเคลื่อนไหวนอกประเทศของนายทักษิณ อดีตนายกฯ เป็นระยะๆ ดังเช่น ให้สัมภาษณ์อัลจาซีร่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ระบุว่า ไม่เคยมีความพยายามพูดคุย หรือต่อรองเรื่องผลประโยชน์ หรือให้วางมือทางการเมืองโดยมองว่า ไม่จำเป็น

อีกครั้งในวันที่ 29 กันยายน 2560 เมื่อ นายนพดล ปัทมะ ออกมาระบุว่า  “พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว พร้อมเสียสละยุติเดินมาทางการเมือง เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ แต่ขณะเดียวกันทุกฝ่ายต้องเสียสละและยึดมั่นในกติกาเช่นกัน”

การประกาศวางมือทางการเมืองของนายทักษิณ นั้นจึงไม่ใช่ครั้งแรก แม้แต่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของนายทักษิณ เอง ยังเคยออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2560 ว่า  “10 ปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ ผมและทุกคนในครอบครัว ยังยืนยันคำเดิมว่า เราเพียงแต่ต้องการชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นกลับคืนมา โดยที่ไม่มีคนหนึ่งคนใดในครอบครัวต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกเลย”

ล่าสุดในวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 เมื่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เปิดประเด็นตั้งข้อสังเกตว่า ในวันเกิดครบ 70 ปีในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ เชื่อว่า คนอายุ 70 ปีผ่านอะไรมามากมายจะต้องคิดมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว เพราะเวลาของตัวเองน้อยลง ครอบครัวลูกหลานยังยืนยาวอยู่ต่อไป ในวัย 70 ปี ผมว่าในทางการเมืองก็น่าจะเพียงพอแล้วเหมือนกัน

เหตุที่ทำให้มีการวิเคราะห์กันว่า นายทักษิณ ซึ่งเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย จะวางมือทางการเมือง เพราะเมื่อคืนวันที่ 7 กรกฎคม ที่ผ่านมา นายทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ “Thaksin Shinawatra” หรือ @ThaksinLive ของตัวเอง ระบุว่า  “วันเกิดครบ 70 ปีของผม หลายท่านแจ้งว่าจะมาร่วมงาน ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้จัดงานในปีนี้  ผมคงทานข้าวกับลูกหลานในบ้าน ซึ่งสถานที่มีจำกัด และอากาศที่ดูไบร้อนเกือบ 50 องศา ไม่สามารถจัดนอกอาคารได้ ขอบคุณทุกท่านสำหรับความปรารถนาดี และยังนึกถึงกันเสมอครับ”

ขณะที่ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล หรือ เฮียเพ้ง อดีตรมว.พลังงาน และแกนนําพรรคเพื่อไทย คนสนิทของนายทักษิณ จัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 69 ปีที่บ้านย่านเหม่งจ๋าย  โดยขึ้นประกาศ บนเวทีขอยุติบทบาททางการเมืองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ด้วยเหตุผลที่ว่า อายุมากและทำการเมืองมานานพอสมควร  จึงต้องการหยุดพักผ่อน 

แถมมีรายงานว่า จะมีแกนนำพรรคเพื่อไทยอีกหลายคน ประกาศวางมือในลักษณะเดียวกัน และต่างส่งสัญญาณตรงกันว่าให้จับตาวันที่ 26 กรกฏาคม  ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของนายทักษิณ อาจมีการประกาศยุติบทบาททางการเมือง เช่นเดียวกับนายพงษ์ศักดิ์

มาถึงตอนนี้ จึงเกิดคำถามว่า นายทักษิณ จะวางมือทางการเมืองจริงหรือไม่ แล้วท่านเชื่อแบบไหน?

รายงนโดย...ทีมข่าวการเมือง ฐานเศรษฐกิจ